‘ศักดิ์สยาม’ ยันไม่เคยระบุรถไฟฟ้าสีแดงจะเปิดให้บริการปี 66 แจงเหตุ PPP หลังสถานการณ์ ‘โควิด-19’ รัฐใช้งบเยียวยาจำนวนมาก ย้ำชัดโปร่งใส-ตรวจสอบได้

“ศักดิ์สยาม” แจง PPP รถไฟสายสีแดง หลังสถานการณ์ “โควิด-19” รัฐใช้งบเยียวยาจำนวนมาก ลุยดึงเอกชนร่วมลงทุน เพื่อลดภาระงบประมาณ-ลดก่อหนี้สาธารณะ ยันไม่เคยระบุรถไฟฟ้าสีแดงจะเปิดให้บริการปี 66 ย้ำชัดโปร่งใส-ตรวจสอบได้ ด้าน ปชช.ได้ประโยชน์-รัฐไม่เสียเปรียบ-เอกชนเดินหน้าได้ จ่อเรียกประชุมหาข้อสรุปสัปดาห์หน้า

นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรคมนาคม เปิดเผยถึงความคืบหน้าโครงการรถไฟชานเมือง (สายสีแดง) ช่วงบางซื่อ-รังสิตว่า เดิมโครงการดังกล่าว มีกำหนดที่จะสามารถเปิดให้บริการได้ในปี 2564 แต่เนื่องจากผู้รับจ้างขอยื่นขยายสัญญาการก่อสร้างออกไปอีกเป็น 1,122 วัน ซึ่งเรื่องนี้กระทรวงคมนาคม รอรายงานจากการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ก่อน และจากการรายงานของนายสรพงษ์ ไพฑูรย์พงศ์ อธิบดี กรมรางฯ ยืนยันว่า เมื่อพิจารณากรอบเวลาการขยายสัญญาแล้ว สามารถลดบางขั้นตอนได้ และยืนยัน ไม่เคยระบุว่าโครงการรถไฟฟ้าสายสีแดงจะเปิดให้บริการในปี 2566

ทั้งนี้ ในสัปดาห์หน้าจะจัดประชุมร่วมกับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ กระทรวงคมนาคม กรมการขนส่งทางราง (ขร.) การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เพื่อพิจารณาหาข้อสรุปต่อไป แต่อย่างไรก็ตาม การพิจารณาว่าจะเปิดให้บริการได้เมื่อไหร่นั้น ต้องพิจารณาบนพื้นฐานด้านประสิทธิภาพและความปลอดภัยเป็นหลัก รวมถึงในส่วนงานโยธาของช่วงบางซื่อ-รังสิต และช่วงบางซื่อ-ตลิ่งชันเสร็จ ถึงแม้จะแล้วเสร็จเกือบทั้งหมดแล้วนั้น ต้องมาพิจารณาว่า การจะเปิดให้บริการ มีในส่วนการวางระบบอาณัติสัญญาณด้วย ทั้งนี้หากประเมินว่าสามารถเปิดเดินรถได้ ก็จะดำเนินการต่อไป

ในส่วนการเปิดให้เอกชนร่วมลงทุนในกิจการของรัฐ (PPP) นั้น นายศักดิ์สยาม กล่าวว่า เนื่องจากจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) รัฐบาลจึงต้องใช้งบประมาณในการป้องกันเยียวยา และฟื้นฟูจากสถานการณ์ดังกล่าวไปจำนวนมาก และขณะนี้การก่อหนี้สาธารณะก็มีอัตราเพิ่มขึ้นเป็น 58% เกือบชนเพดาน 60% แล้ว การนำเอกชนเข้าร่วมลงทุนจึงเป็นการลดภาระต่องบประมาณ ลดการก่อหนี้ในอนาคต และประชาชนจะต้องได้รับประโยชน์สูงสุด มีภาระค่าโดยสารต่ำ รัฐต้องไม่เสียเปรียบ และเอกชนสามารถเดินหน้าได้ อย่างไรก็ตาม ในเรื่อง PPP นั้น ต้องเสนอให้คณะกรรมการ PPP และคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (คนร.) พิจารณาต่อไป

“เรื่องรถไฟสายสีแดงไม่ต้องกังวล และไม่เอื้อประโยชน์ให้ใคร เพราะผมใช้หลักธรรมาภิบาลในการทำงาน โปร่งใส มีส่วนร่วม และตรวจสอบได้ โดยในสัปดาห์หน้าต้องสรุปให้ได้ ต้องมาดูข้อเท็จจริง และเป็นไปตามหลักกฏหมาย รวมถึงเหตุผลต่างๆ” นายศักดิ์สยาม กล่าว

นายศักดิ์สยาม กล่าวต่ออีกว่า ส่วนประเด็นที่หากผู้รับจ้างจะขยายสัญญา และมีการเพิ่มวงเงินประมาณ 10,345 ล้านบาทนั้น จึงมอบหมายให้ รฟท. ไปตรวจสอบว่าวงเงินที่ผู้รับจ้างขอเพิ่ม 10,345 ล้านบาทนั้น มีความจำเป็นต้องทำหรือไม่ ถ้าทำแล้วต้องใช้งบประมาณจากแหล่งใด เนื่องจากเดิมใช้งบประมาณจากไจก้า แต่ตอนนี้ต้องใช้งบประมาณปกติ