ฝนถล่มหนัก! พัดทางเบี่ยงสะพานโครงการก่อสร้าง ทล.118 ขาด 3 จุด ‘ศักดิ์สยาม’ เผยสัญจรได้แล้ว 2 จุด สั่งเร่งซ่อมให้เสร็จครบภายในวันนี้

ฝนถล่มหนัก! พัดทางเบี่ยงสะพานโครงการก่อสร้าง ทล.118 ขาด 3 จุด “ศักดิ์สยาม” เผยสัญจรได้แล้ว 2 จุด สั่งเร่งซ่อมให้เสร็จครบภายในวันนี้ ด้าน “อธิบดี ทล.” มอบหมายโครงการเข้มงวด-ระวังทิศทางน้ำ แจ้งหน่วยงานเตรียมเครื่องจักร-อุปกรณ์ให้พร้อมรับมือ

นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า ได้รับรายงานจากกรมทางหลวง (ทล.) ว่า เมื่อวันที่ 27 มิ.ย. 2563 เวลาประมาณ 04.25 น. ได้เกิดเหตุฝนตกตลอดทั้งคืน ทำให้เกิดน้ำป่าไหลหลาก และพัดทางเบี่ยงสะพานขาด 3 จุดของโครงการก่อสร้างทางหลวงหมายเลข 118 สายเชียงใหม่-เชียงราย ตอน อ.ดอยสะเก็ด-ต.ป่าเมี่ยง ตอน 2 สำหรับทางเบี่ยงสะพานที่ขาด 3 จุดนั้น ได้แก่ กม.32+941, กม.34+654 และ กม.35+880 ส่งผลให้การจราจรไม่สามารถผ่านได้ ทั้งนี้ ได้ประสานท้องที่ให้ใช้ทางเลี่ยงเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

ขณะนี้ ได้ดำเนินการซ่อมแซม กม.34+654 และ กม.35+880 การจราจรสามารถผ่านได้แล้ว และกำลังเร่งดำเนินการวางท่อที่ กม.32+941 ให้แล้วเสร็จภายในวันนี้ (27 มิ.ย. 2563) นอกจากนี้ ตนได้สั่งการให้ดำเนินการแก้ไขปัญหาด้วยความรวดเร็ว และมีประสิทธิภาพ พร้อมทั้งประชาสัมพันธ์ข่าวให้ประชาชนทราบด้วยความรวดเร็ว

ด้านนายสราวุธ ทรงศิวิไล อธิบดีกรมทางหลวง (ทล.) กล่าวว่า จากเหตุการณ์ทางเบี่ยงสะพานขาด 3 จุดของโครงการก่อสร้างทางหลวงหมายเลข 118 สายเชียงใหม่-เชียงรายนั้น เนื่องจากเมื่อช่วงดึกที่ผ่านมา เกิดฝนตกตลอดทั้งคืน มีน้ำป่าไหลหลากอย่างรุนแรง โดยบริเวณดังกล่าวเป็นจุดก่อสร้างสะพาน ทำให้บริเวณที่เป็นทางเบี่ยงขาดได้รับความเสียหาย 3 จุด ล่าสุดโครงการก่อสร้างฯ ได้นำท่อมาวางบริเวณทางเบี่ยง โดยในขณะนี้ได้แก้ไขบริเวณที่เกิดเหตุได้แล้ว 2 จุด ซึ่งคาดว่าอีก 1 จุดที่เหลือ จะสามารถดำเนินการแล้วเสร็จให้ประชาชนสามารถสัญจรไปมาได้ภายในวันนี้ (27 มิ.ย. 2563) เวลา 17.00 น. ทั้งนี้ เส้นทางเลี่ยงที่ประชาชนจะสามารถเดินทางโดยไม่ผ่านจุดที่ทางเบี่ยงขาดดังกล่าว ประกอบด้วย 1.เชียงใหม่-พร้าว-เวียงป่าเป้า 2.เชียงใหม่-ฝาง-แม่สรวย 3.เชียงใหม่-ลำปาง-งาว-พะเยา

สำหรับโครงการดังกล่าว อยู่ระหว่างการก่อสร้าง โดยจะแล้วเสร็จภายในปี 2564 เมื่อก่อสร้างสะพานแล้วเสร็จ บริเวณดังกล่าวจะเป็นช่องน้ำไหลผ่านช่องสะพาน จึงได้มอบหมายให้ทางโครงการฯ เข้มงวดเรื่องทิศทางน้ำ และระมัดระวัง กรณีหากเกิดฝนตกและน้ำป่าไหลแรง ขณะเดียวกัน นอกจากโครงการก่อสร้างบริเวณโซนภาคเหนือแล้ว ยังได้เน้นย้ำให้ทุกแขวงฯ พิจารณาเส้นทางที่สุ่มเสี่ยง และอาจจะทำให้เกิดถนนเสียหายได้รับผลกระทบ เช่น ดินถล่มดินสไลด์ เป็นต้น นอกจากนี้ ยังได้สั่งการให้ศูนย์สร้างทาง รวมถึงศูนย์สร้างและบูรณะสะพาน 9 แห่งทั่วทุกภาค เตรียมเครื่องจักรและสะพานเหล็กชั่วคราวให้พร้อมที่จะเข้าไปช่วยเหลือแขวงทางหลวงฯ กรณีที่มีดินสไลด์และถนนขาด สามารถเข้าพื้นที่และซ่อมแซม ทางที่ได้รับความเสียหาย ให้กลับมาใช้งานได้ปกติภายใน 24 ชั่วโมง