ไทยประกันชีวิตปิดชั่วคราวสาขา-ศูนย์ CSC รวม 165 แห่ง ขานรับมาตรการรัฐลดเสี่ยงCOVID-19 ตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉิน
ไทยประกันชีวิตปิดชั่วคราวสาขา-ศูนย์ CSC รวม 165 แห่ง ลดการเดินทางของลูกค้า ขานรับมาตรการรัฐลดเสี่ยงการแพร่ระบาดของโรค COVID–19 ตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉิน เตรียมพร้อมช่องทางให้บริการรองรับการชำระเบี้ยฯ เคลมสินไหม ผ่านไทยประกันชีวิต Easy Pay และไทยประกันชีวิต iService
นายอังกูร ศรีกัลยาณบุตร รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ และ Chief Marketing Officer บริษัท ไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา สายพันธุ์ใหม่ 2019 (COVID-19) ที่ยังคงแพร่กระจายอย่างต่อเนื่องและครอบคลุมพื้นที่หลายจังหวัด ซึ่งคณะรัฐมนตรีได้ประกาศใช้พระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน หรือ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน โดยมุ่งเน้นมาตรการลดการเดินทางออกนอกเคหะสถานหรือนอกพื้นที่ ยึดหลักเว้นระยะห่างทางสังคม หรือ Social Distancing
ดังนั้น เพื่อปฏิบัติตามแนวทางของภาครัฐ ในการลดการเดินทางของผู้เอาประกัน พนักงาน และฝ่ายขาย บริษัทฯ จึงมีความจำเป็นต้องปิดที่ทำการสาขา รวมถึงศูนย์บริการลูกค้า (CSC) ภายในศูนย์การค้าเป็นการชั่วคราว จำนวน 165 สาขา ตั้งแต่วันที่ 1-30 เมษายน 2563 หรือจนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย โดยสามารถดูรายชื่อสาขาและศูนย์ CSC ที่ปิดทำการชั่วคราว ได้ที่ลิงก์ https://bit.ly/2wW8NNQ
บริษัทฯ ให้ความสำคัญต่อการดูแลผู้เอาประกัน ตามนโยบายการยึดลูกค้าเป็นศูนย์กลาง (Customer Centric) และเพื่อไม่ให้กระทบต่อการดำเนินธุรกิจ รวมถึงการทำธุรกรรมของผู้เอาประกัน บริษัทฯ ได้กำหนดแนวทางปฏิบัติตามแผนรองรับการดำเนินธุรกิจต่อเนื่องและแผนบริหารงานในภาวะภัยพิบัติ หรือ Business Continuity Plan (BCP) โดยเตรียมระบบและช่องทางในการให้บริการแก่ผู้เอาประกัน ให้สามารถใช้บริการต่างๆ ได้ตามปกติผ่านช่องทางออนไลน์ โดยไม่ต้องเดินทางไปยังสาขา อาทิ บริการไทยประกันชีวิต Easy Pay การชำระเบี้ยประกันภัยผ่านระบบ Mobile Banking ของธนาคารพันธมิตร เพียงแสกน Barcode หรือ QR Code ในใบแจ้งเตือนชำระเบี้ยฯ บริการไทยประกันชีวิต iService การตรวจสอบสถานะกรมธรรม์ การขอใบแจ้งชำระเบี้ยฯ หรือเรียกร้องสินไหมทดแทนด้วยตัวเอง ผ่านเว็บไซต์ www.thailife.com/iservice
นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังมีช่องทางการติดต่อสำหรับผู้เอาประกันหลากหลายช่องทาง ไม่ว่าจะเป็นไทยประกันชีวิตแคร์เซ็นเตอร์ โทร.1124 รวมถึงช่องทาง Online และ Social Media ต่างๆ ประกอบด้วย เว็บไซต์ www.thailife.com, เฟซบุ๊กไทยประกันชีวิต@Thailifepage, Line Official Account @Thailifeinsurance และ Twitter @ThaiLifePLC
“บริษัทฯ มีความห่วงใยในสุขภาพและความปลอดภัยของผู้เกี่ยวข้อง ทั้งพนักงาน ผู้เอาประกัน และประชาชนทั่วไป และพร้อมปฏิบัติการตามมาตรการของภาครัฐอย่างเคร่งครัด เพื่อลดความเสี่ยงและควบคุมการแพร่ระบาดของโรค COVID-19 โดยมุ่งหวังให้ทุกคนมีสุขภาพกายและใจที่ดี ตามนโยบายการส่งเสริมสุขภาพเชิงป้องกัน อันสอดคล้องกับเป้าหมายการเป็นทุกคำตอบของชีวิต หรือ Life Solutions ของบริษัทฯ” นายอังกูรกล่าว