‘คมนาคม’ จ่อคลอดประกาศคุมเข้มผู้โดยสารจากทั่วโลก ก่อนเข้าไทยต้องโชว์ ‘ใบรับรองแพทย์’ ทุกคน หวังสกัด ‘โควิด-19’ ให้อยู่หมัด

“คมนาคม” จ่อคลอดประกาศคุมเข้มผู้โดยสารทั่วโลกทุกคน ก่อนเข้าไทยต้องโชว์ใบรับรองแพทย์ ครอบคลุม “อากาศ-น้ำ-ด่านพรมแดน” หวังสกัด “โควิด-19” ให้อยู่หมัด รอ สธ. ประกาศภายใน 23 มี.ค.นี้ ด้าน “ศักดิ์สยาม” ถกร่วมกรมรางฯ-บขส.-ขสมก. เล็งออกประกาศบังคับใส่หน้ากากอนามัยก่อนเดินทาง เร่งหารือ มท.-อุตฯ ผลิตให้เพียงพอ พร้อมตั้งจุดจำหน่าย

 

นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า ในขณะนี้สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ของประเทศไทยยังอยู่ในระยะที่ 2 แต่ทั้งนี้ กระทรวงคมนาคมได้กำหนดมาตรการต่างๆ เพื่อเตรียมความพร้อมกรณีหากประเทศไทยประกาศสถานการณ์เข้าสู่ระยะที่ 3 เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดเชื้อไวรัสดังกล่าว โดยเฉพาะจากต่างประเทศเข้ามายังประเทศไทย ครอบคลุมทั้งทางอากาศ และทางน้ำ พร้อมทั้งบูรณาการร่วมกับกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) และสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) ที่จะเข้ามาตรการในส่วนของทางบก และทางราง

ทั้งนี้ เพื่อเป็นการป้องกันและลดการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 นั้น ล่าสุด กระทรวงคมนาคมอยู่ระหว่างการจัดทำร่างประกาศฯ ให้ผู้โดยสารทุกคนที่จะเดินทางเข้าประเทศไทยไม่ว่าจะเป็นชาวไทย หรือชาวต่างชาติจากทุกประเทศต้นทางทั่วโลก ทั้งทางอากาศ ทางน้ำ และทางบก จะต้องแสดงใบรับรองแพทย์ หากไม่สามารถนำมาแสดงได้ จะถูกปฏิเสธการเข้าประเทศไทยในทันที เพื่อเป็นการสร้างความมั่นใจให้กับประชาชนในการเดินทางเข้าไทย หลังจากวานนี้ (18 มี.ค. 2563) สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) ได้ออกประกาศฉบับที่ 2 เพื่ออุดช่องว่างการเดินทางจากประเทศที่กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ประกาศเป็นประเทศที่มีการแพร่ระบาดเชื้อไวรัสโควิด-19 ก่อนเดินทางเข้าประเทศไทย ว่าได้เดินทางมาจาก 4 ประเทศ และ 2 เขตปกครองตนเองพิเศษ ในระยะเวลาไม่เกิน 14 วันหรือไม่ โดยจะมีผลบังคับ ใช้ในวันที่ 21 มี.ค. 2563 เวลา 00.00 น.

โดยในขณะนี้ กระทรวงสาธารณสุข อยู่ระหว่างการประเมินสถานการณ์ ก่อนที่กรมควบคุมโรคจะออกประกาศ ซึ่งคาดว่าจะออกประกาศภายในวันพรุ่งนี้ (20 มี.ค. 2563) หรือภายในวันที่ 23 มี.ค. นี้ จากนั้นกระทรวงคมนาคมจะมอบหมายให้ กพท. ที่ดูแลการขนส่งทางอากาศ และกรมเจ้าท่า (จท.) ที่ดูแลการขนส่งทางน้ำ ออกประกาศเพื่อควบคุมการเดินทางเข้าประเทศไทยต่อไป รวมไปถึงการควบคุมบริเวณด่านพรมแดน (ทางบก) โดยมอบหมายให้ผู้ว่าราชการจังหวัดของแต่ละจังหวัดไปดำเนินการ ตามพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ.2558

“ยืนยันว่า การรักษาของประเทศไทย และกระทรวงสาธารณสุขของไทยอยู่ในเกณฑ์ที่ดีมาก หรือติด Top 3 ของโลก ถึงแม้จะพบว่ามียอดผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้น แต่เป็นการสะสมมาเรื่อยๆ เราจึงต้องใช้มาตรการทางการแพทย์ เพื่อสร้างความมั่นใจของประเทศไทย ผมเชื่อว่าถ้าเราทำอย่างสมบูรณ์ มีโอกาสที่เรื่องนี้จะจบ และเราไม่ได้ปิดประเทศ แต่คนที่เข้ามาไทยจะต้องตรวจ เพื่อขจัดการแพร่ระบาด” นายศักดิ์สยาม กล่าว

นายศักดิ์สยาม กล่าวต่ออีกว่า นอกจากนี้ยังได้มีการหารือกับนายสรพงศ์ ไพฑูรย์พงษ์ อธิบดีกรมการขนส่งทางราง (ขร.) เพื่อพิจารณาออกประกาศกรมรางฯ เพื่อกำหนดให้ประชาชนทุกคน ที่จะต้องเดินทางด้วยระบบรถไฟฟ้าจะต้องใส่หน้ากากอนามัย ทั้งนี้ ถึงแม้ว่า ในปัจจุบันจะมีการสแกนผู้โดยสาร พร้อมทั้งมีเจลแอลกอฮอล์ล้างมือ รวมถึงเครื่องมือในการวัดอุณหภูมิ ว่าไม่ให้เกิน 37.5 องศาเซลเซียสอยู่แล้ว แต่จะเป็นการเพิ่มมาตรการเพิ่มเติมด้วย

นอกจากนี้ จะใช้มาตรการการใส่หน้ากากอนามัยบนรถเมล์ขององค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) และรถทัวร์ ของบริษัท ขนส่ง จำกัด (บขส.) โดยในขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาว่า กระทรวงฯ จะมีอำนาจมีกฎหมายดำเนินการได้อย่างไรบ้าง แต่ทั้งนี้ เชื่อว่าในส่วนของกรมรางฯ จะสามารถดำเนินการได้

กรณีที่ประชาชนตั้งคำถามว่าไม่มีหน้ากากอนามัยจะทำอย่างไร นายศักดิ์สยาม กล่าวว่า ขณะนี้กระทรวงมหาดไทย (มท.) กระทรวงอุตสาหกรรม และหน่วยงานอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง อยู่ระหว่างดำเนินการ เพื่อตั้งจุดจำหน่ายหน้ากากอนามัยให้กับประชาชนที่จะเดินทาง อย่างไรก็ตาม จะดำเนินการภายในสัปดาห์นี้ เมื่อทุกอย่างพร้อมก็จะออกประกาศต่อไป