‘อธิรัฐ’ ตัดริบบิ้นเปิดตัวเรือด่วนปรับอากาศ ‘Riva express’ 4 ลำรายแรกในไทย ดีเดย์วิ่งให้บริการ 18 พ.ค.นี้
“อธิรัฐ” ตัดริบบิ้นเปิดตัวเรือด่วนปรับอากาศ “Riva express” 4 ลำรายแรกในไทย ดีเดย์วิ่งให้บริการ 18 พ.ค. 63 ส่งโปรฯ 30 บาทตลอดสายถึง ก.ค.นี้ พร้อมสั่ง “กรมเจ้าท่า” ตั้งจุดคัดกรองผู้โดยสารใช้บริการ รับมือ “โควิด-19”
นายอธิรัฐ รัตนเศรษฐ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยภายหลังการเปิดตัวเรือด่วนเจ้าพระยา Riva express ณ ท่าเรือมหาราชว่า เรือด่วนปรับอากาศ Riva express จะเป็นการยกระดับการให้บริการระบบขนส่งทางน้ำที่มีความทันสมัยมากขึ้น และเป็นอีกหนึ่งทางเลือกให้กับประชาชนในการใช้ระบบขนส่งสาธารณะ โดยจะเป็นเรือด่วนปรับอากาศรายแรกของประเทศ เบื้องต้นมีจำนวน 4 ลำ ซึ่งแต่ละลำสามารถรองรับผู้โดยสารได้ประมาณ 200 คน และในช่วงแรกจะทดลองวิ่งให้บริการบางสถานีตั้งแต่วันนี้-17 พ.ค. 2563 และจะเปิดให้บริการอย่างเต็มรูปแบบในวันที่ 18 พ.ค. 2563 ทั้งนี้ ในส่วนของอัตราค่าโดยสารนั้น ในช่วงทดลองจนถึง ก.ค. 2563 คิดอัตราค่าโดยสาร 30 บาทตลอดสาย หลังจากนั้นจะคิดอัตราค่าโดยสาร 50 บาทตลอดสาย
อย่างไรก็ตาม คาดว่าในอนาคตจะมีประชาชนมาใช้บริการระบบขนส่งทางน้ำเพิ่มขึ้น โดยในปัจจุบันกรมเจ้าท่า (จท.) ได้มีแผนพัฒนาท่าเรือ เพื่อเชื่อมโยงต่อระบบขนส่งสาธารณะอื่นๆ ในทุกท่าเรือ ซึ่งในแผนงานประจำปี 2563 นั้น จท. เตรียมพัฒนา 5 ท่าเรือ ได้แก่ ท่าราชินี ท่าช้าง ท่าเตียน ท่าวัดโพธิ์ และท่าบางโพ สอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาล และกระทรวงคมนาคม “รางต่อเรือ” ทั้งนี้ มั่นใจว่า หากทุกท่าเรือมีประสิทธิภาพในการให้บริการ ประชาชนจะเกิดความมั่นใจและใช้บริการในระบบขนส่งทางน้ำมากขึ้น
ในส่วนมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 กระทรวงคมนาคมนั้น นายอธิรัฐ กล่าวยืนยันว่า ได้สั่งให้ จท. ดำเนินการตั้งจุดคัดกรองผู้โดยสารและเจลแอลกอฮอล์ล้างมือให้บริการในทุกท่าเรือ และกำชับมาตรการความปลอดภัยทั้งผู้โดยสารและการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่อย่างเข้มงวดอยู่แล้ว
ด้านนางสุภาวรรณ พิชัยรณรงค์สงคราม ประธานกรรมการบริษัท เรือด่วนเจ้าพระยา จำกัด กล่าวว่า ในอนาคตจะยังคงให้บริการทั้งในส่วนของเรือปรับอากาศและเรือโดยสารธรรมดา เพราะจะยังคงรักษากลุ่มผู้โดยสารทุกกลุ่ม แต่ยอมรับว่าเรือไม้จะให้บริการน้อยลง และในอนาคตหันมาให้บริการเรือไทเทเนี่ยม เพราะมีประสิทธิภาพในการให้บริการที่รวดเร็ว มากกว่าเรือไม้
ทั้งนี้ ยอมรับว่าจากสถานการณ์ของโรคโควิด-19 ขณะนี้กระทบต่อจำนวนผู้โดยสารลดลง 30% และคาดว่าจะลดลงอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับในช่วงนี้เป็นช่วงปิดภาคเรียน ส่วนการรับมือสถานการณ์ดังกล่าว เรือด่วนเจ้าพระยาได้มีการแจ้งเตือนประชาชนให้ระมัดระวังในการเดินทาง พร้อมประเมินว่าผู้โดยสารส่วนใหญ่ไม่มีความกังวลในการใช้บริการเรือโดยสารที่ไม่ได้ปรับอากาศ เพราะมองว่าไม่ได้อยู่ในบรรยากาศที่แออัด แต่กลับกังวลในเรื่องของการใช้เรือปรับอากาศมากกว่า ซึ่งได้กำชับเจ้าหน้าที่ให้เช็ดล้างทำความสะอาดภายในเรือ เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับประชาชน อย่างไรก็ตาม โรคโควิด-19 กระทบสภาพคล่องด้านการเงิน แต่ทางเรือด่วนเจ้าพระยายืนยัน จะไม่ยกเลิกกิจการเดินเรือ เพราะยังคงต้องให้บริการประชาชนในระบบขนส่งทางน้ำต่อไป
ขณะเดียวกัน สำหรับการเปิดให้บริการเรือด่วนปรับอากาศ Riva express ในวันที่ 18 พ.ค.63 เป็นต้นไปนั้น จะวิ่งให้บริการตลอดเส้นทางนนทบุรี-สาทร ในวันจันทร์-วันศุกร์ ตั้งแต่ 09.45-16.15 น. จำนวน 8 ท่าเรือ ที่เชื่อมต่อกับสถานีรถไฟฟ้าในปัจจุบัน ระยะทาง 15 กม. ได้แก่ 1.ท่าเรือบางโพ 2.ท่าเรือเกียกกาย 3.ท่าเรือเทเวศร์ 4.ท่าเรือพรานนก 5.ท่าเรือราชินี 6.ท่าเรือราชวงศ์ 7.ท่าเรือไอคอนสยาม และ 8.ท่าเรือสาทร ย่นเวลาจากเรือด่วนฯ เดิม 1 ชั่วโมง เหลือเพียง 30 นาทีเท่านั้น
สำหรับ เรือด่วนปรับอากาศ Riva express ดังกล่าวนั้น เป็นเรืออลูมิเนียมรูปแบบใหม่จากออสเตรเลีย จุผู้โดยสาร 200 คน น้ำหนักเบา ตัวเรือเป็นแบบลำตัวคู่ (Catamaran) ใช้เทคโนโลยีใหม่ สร้างคลื่นน้อย (Low Wash) ลดผลกระทบต่อสภาวะแวดล้อม ประหยัดพลังงาน มีเสถียรภาพ ความคล่องตัวและปลอดภัยสูง ความมั่นใจในมาตรฐานความปลอดภัยในระดับสากล ติดตั้งระบบติดตามเรือ GPS จอภาพ LED และอุปกรณ์การกระจายเสียง มีระบบประชาสัมพันธ์ข้อมูลข่าวสารการเดินเรือและข้อมูลต่างๆ ได้ ในลักษณะอัตโนมัติ สามารถกำหนดข้อมูลเสียงและภาพได้อย่างต่อเนื่อง ทำให้ผู้โดยสารภายในเรือสามารถได้รับข้อมูลการเดินเรือ ท่าเรือที่เรือกำลังจะเข้าจอด เพื่อให้ผู้โดยสารเตรียมตัว มีระบบจำหน่ายตั๋วโดยสารด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ (บัตร Rabbit) และระบบกล้องวงจรปิด