‘พาณิชย์’ เตรียมประชุมรัฐมนตรีเศรษฐกิจอาเซียนที่เวียดนาม หวังผลักดันการลงนามความตกลง RCEP

กระทรวงพาณิชย์ เตรียมเข้าร่วมประชุมรัฐมนตรีเศรษฐกิจอาเซียนอย่างไม่เป็นทางการ (AEM Retreat) ครั้งที่ 26 และการประชุมอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง ณ สาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม เร่งพิจารณาเห็นชอบแผนงานด้านเศรษฐกิจที่จะผลักดันให้อาเซียนดำเนินการให้สำเร็จในปี 2563 ติดตามการดำเนินการตาม AEC Blueprint พร้อมเตรียมการประชุมรัฐมนตรี RCEP

นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยว่า รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ (นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์) ได้มอบหมายให้ นายสรรเสริญ สมะลาภา ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงพาณิชย์ นำคณะผู้แทนไทยเข้าร่วมการประชุมรัฐมนตรีเศรษฐกิจอาเซียนอย่างไม่เป็นทางการ (AEM Retreat) ครั้งที่ 26 และการประชุมอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง ณ สาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม ระหว่างวันที่ 9 – 11 มีนาคม 2563 โดยมีประเด็นหารือที่สำคัญ เช่น การพิจารณาเห็นชอบแผนงานด้านเศรษฐกิจที่เวียดนามในฐานะประธานอาเซียนผลักดันให้อาเซียนดำเนินการให้สำเร็จในปี 2563 การติดตามการดำเนินการตาม AEC Blueprint โดยเฉพาะเรื่องการอำนวยความสะดวกทางการค้าของอาเซียน การเตรียมการประชุมระดับรัฐมนตรี RCEP และการหารือกับสภาที่ปรึกษาธุรกิจอาเซียนเรื่องการดำเนินงานของอาเซียน เป็นต้น

นางอรมน เสริมว่า เวียดนามในฐานะประธานอาเซียนปีนี้ ได้นำเสนอประเด็นด้านเศรษฐกิจที่อาเซียนจะร่วมกันผลักดันในปี 2563 ภายใต้แนวคิด “อาเซียนที่เป็นหนึ่งเดียวและพร้อมปรับตัว” (Cohesive and Responsive ASEAN) โดยจะเน้นเรื่องการส่งเสริมการบูรณาการและความเชื่อมโยงภายในอาเซียน การส่งเสริมการมีส่วนร่วมของอาเซียนกับประชาคมโลก และการเสริมสร้างอาเซียนที่พร้อมปรับตัวและมีศักยภาพ โดยหลายประเด็นได้สานต่อจากที่ไทยในฐานะประธานอาเซียนปีที่แล้วริเริ่มไว้ เช่น การจัดทำกลไกเพื่อติดตามและประเมินการบูรณาการด้านดิจิทัลของอาเซียน การจัดทำแผนงานต่อต้านการทำประมงที่ผิดกฎหมาย ขาดการรายงาน และไร้การควบคุม (IUU) และการลงนามความตกลง RCEP เป็นต้น รวมทั้งมีการเสนอประเด็นใหม่ๆ เช่น การพัฒนาอุตสาหกรรมอัจฉริยะ การเชื่อมโยงการชำระเงิน การเชื่อมโยงศูนย์นวัตกรรม การทำแผนงานความมั่นคงทางอาหารระหว่างกัน เป็นต้น สำหรับการติดตามการดำเนินการของอาเซียนด้านเศรษฐกิจ คาดว่าจะมีการหารือในประเด็นการอำนวยความสะดวกทางการค้าแก่ภาคเอกชน การเร่งให้อาเซียนใช้ระบบรับรองถิ่นกำเนิดสินค้าด้วยตัวเองโดยเร็วเพื่อลดขั้นตอนและค่าใช้จ่ายในการทำการค้าระหว่างกัน เร่งรัดการลงนามข้อตกลงยอมรับร่วม (MRA) ด้านรถยนต์ของอาเซียนซึ่งไทยได้ผลักดันจนหาข้อสรุปได้เมื่อปี 2562 เป็นต้น นอกจากนี้ รัฐมนตรีเศรษฐกิจอาเซียนยังมีกำหนดพบหารือกับสภาที่ปรึกษาธุรกิจอาเซียน ในประเด็นที่ภาคเอกชนอาเซียนต้องการผลักดันให้อาเซียนดำเนินการ เพื่อเพิ่มมูลค่าการค้าและการลงทุนในอาเซียนด้วย

ทั้งนี้ อาเซียนเป็นคู่ค้าอันดับหนึ่งของไทย ในปี 2562 การค้าระหว่างไทยกับอาเซียน มีมูลค่าการค้ารวม 107,928 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยไทยส่งออกไปอาเซียน มูลค่า 62,904 ล้านเหรียญสหรัฐ และนำเข้าจากอาเซียน มูลค่า 45,024 ล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งไทยได้ดุลการค้า 17,880 ล้านเหรียญสหรัฐ ตลาดส่งออกและแหล่งนำเข้าสำคัญของไทยในอาเซียน ได้แก่ มาเลเซีย เวียดนาม สิงคโปร์ อินโดนีเซีย และฟิลิปปินส์