‘Globish’ เปิด 3 ทักษะ รับเทรนด์ S-Curve ชูหัวใจหลัก ’ภาษาอังกฤษ’ พร้อมอัพสกิลคนไทย ตั้งเป้าปีนี้คว้ารายได้ 220 ล้าน

“Globish” แนะสร้าง S-Curve ก้าวข้าม Personal Disruption เผย 3 ทักษะที่ยุคนี้ต้องมี ชี้ “ภาษาอังกฤษ” เป็นหัวใจสำคัญ ตั้งเป้าปีนี้โต 120% คว้ารายได้ 220 ล้าน พ่วงพัฒนาคนไทยกว่า 100,000 คน ภายใน 5 ปี พร้อมเชื่อ 5G หนุนเติบโตมากขึ้น

นางสาวชื่นชีวัน วงษ์เสรี เจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายธุรกิจ และผู้ร่วมก่อตั้ง บริษัท โกลบิช อคาเดเมีย (ไทยแลนด์) จำกัด เปิดเผยว่า ปัจจุบันหลายธุรกิจ รวมถึงแรงงานไทย กำลังเผชิญกับการเปลี่ยนแปลง บนเศรษฐกิจท่ามกลางการแข่งขัน และการดิสรัปชัน (Disruption) หลายธุรกิจมุ่งพัฒนา ขับเคลื่อน ธุรกิจให้สามารถแข่งขันและก้าวทันโลกที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็วชนิดพลิกฝ่ามือ ซึ่งการสร้าง S-Curve เป็นหนทางความสำเร็จของธุรกิจ โดยการทำ S-Curve แบ่งออกเป็น 2 ด้าน คือ S-Curve ในธุรกิจและองค์กร ด้วยการลงทุนในธุรกิจหรืออุตสาหกรรมใหม่ เพื่อนำไปสู่การพัฒนาหรือการเปลี่ยนแปลง รูปแบบของสินค้า บริการ และช่องทางการเติบโตใหม่ๆ และ S-Curve ในด้านการพัฒนาทักษะความ สามารถของคนเพื่อก้าวข้ามปัญหา Personal disruption ด้วยการพัฒนาทักษะของตนเองให้รองรับกับความต้องการของธุรกิจยุคใหม่ 

“โดย 3 ทักษะที่จำเป็นในโลกยุคใหม่ ด้วยเทรนด์การพัฒนา และเสริมสร้างทักษะตนเองรวมทั้งบุคลากร ขององค์กรในทศวรรษ 2020 ประกอบด้วย 1.ทักษะการเรียนรู้ Learning Skills 2.ทักษะความรู้ความเข้าใจ Literacy Skills (IMT) และ 3.ทักษะการใช้ชีวิต Life Skills (FLIPS) ซึ่งหัวใจสำคัญของการพัฒนา 3 ทักษะที่จำเป็นในโลกยุคใหม่ที่ต้องมีในทศวรรษ 2020 คือการมีพื้นฐาน ภาษาอังกฤษที่ดี เพราะภาษาอังกฤษเป็น “หัวใจสำคัญ” ในการช่วยส่งเสริมทักษะต่าง ๆ ให้มีความเชี่ยวชาญ มากขึ้น การขาดทักษะที่ดีด้านภาษาอังกฤษจะส่งผลให้คนทำงานสูญเสียโอกาสในการทำงาน และอาจถูกดิสรัปชันได้เช่นกัน” นางสาวชื่นชีวัน กล่าว

นางสาวชื่นชีวัน กล่าวต่ออีกว่า จากสถิติของสถาบันภาษา British Council ระบุว่าปัจจุบันมีผู้ใช้ภาษาอังกฤษ รวมถึงผู้ที่ต้องการ เรียนรู้ทักษะภาษาอังกฤษกว่า 2,000 ล้านคนทั่วโลก โดยมี 48.6% ของเยาวชนจากเอเชียที่เลือกพัฒนาทักษะภาษาอังกฤษเพื่อเพิ่มโอกาสในการทำงานทั้งในและต่างประเทศ สะท้อนให้เห็นถึงแนวโน้มการทำงานของเยาวชนที่เลือกทำงานในสายงานที่ต้องใช้ทักษะภาษาอังกฤษมากขึ้นในปัจจุบัน สอดคล้องกับข้อมูลจากบริษัทจัดหางานในประเทศไทย โดย ฝบริษัท จ๊อบส์ดีบี (ประเทศไทย) ที่ชี้ชัดว่า ผู้ที่มีทักษะภาษาอังกฤษ นั้นเป็นที่ต้องการค่อนข้างสูงในตลาดแรงงาน

ขณะที่ปัจจุบันการใช้ภาษาอังกฤษของประชากรในประเทศไทยปีล่าสุด 2019 ยังตกอันดับ จากสถิติของ EF ( Education First ) ระบุว่าระดับทักษะทางภาษาอังกฤษของประเทศไทยตกอันดับลงตลอด 3 ปีซ้อน ลงมาอยู่ที่ลำดับที่ 74 จาก 100 ประเทศ ด้วยมีคะแนนเฉลี่ยอยู่ที่ 47.62 คะแนน ซึ่งถือว่าน้อยมากในขณะที่ปี 2018 ประเทศไทยจัดอยู่ในลำดับที่ 64 จาก 88 ประเทศ ด้วยคะแนนเฉลี่ย 48.54 คะแนนนับเป็นคะแนน ต่ำสุดเป็นอันดับ 3 สุดท้ายในประเทศแถบเอียเชียตะวันออกเฉียงใต้ และเป็นอันดับที่ 17 จาก 25 ของเอเชีย

ด้านนายธกานต์ อานันโทไทย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และผู้ร่วมก่อตั้ง บริษัท โกลบิช อคาเดเมีย (ไทยแลนด์) จำกัด กล่าวว่า Globish ในปี 2562 ที่ผ่านมามีสถิติการเติบโตขึ้นกว่าปี 2561 เพิ่มขึ้นกว่า 190% โดยแบ่งกลุ่มผู้เรียนเป็นเด็ก 10% กลุ่มคนวัยทำงาน 90% และคาดว่าในปี 2563 นี้ ด้วยทิศทางการพัฒนาอย่างต่อเนื่องของ Globish จะช่วยผลักดันการเติบโตเพิ่มสูงขึ้น โดยตั้งเป้าการเติบโต 120% หรือมีรายได้ 220 ล้านบาท เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมามีรายได้ 97 ล้านบาท

ขณะเดียวกัน ในปีนี้ Globish มีแผนที่จะพัฒนาคอร์สเรียนใหม่ที่เหมาะสมกับความต้องการในการใช้งาน ที่หลากหลายขึ้น โดยมุ่งเน้นพัฒนาการใช้ภาษาอังกฤษในกลุ่มอาชีพที่นอกเหนือจากกลุ่มสายธุรกิจ ไปยังกลุ่มอาชีพเฉพาะทาง เช่น กลุ่มอาชีพทางการแพทย์ หรือกลุ่มอาชีพเฉพาะมากขึ้น

“นอกจากนี้ เทคโนโลยี 5G เป็นปัจจัยสำคัญที่จะเข้ามาช่วยยกระดับคุณภาพการศึกษาไทยให้ก้าวหน้าในระดับสากล ด้วยความเร็วของเครือข่าย 5G สามารถพัฒนาหลักสูตรการเรียนการสอนที่ทันสมัย และเข้าถึงผู้เรียนแบบไร้ขีดจำกัด ดังนั้นเราจึงถือโอกาสตอกย้ำนโยบายมุ่งยกระดับการศึกษาไทย ด้วยการพัฒนาแอปพลิเคชัน Globish ให้สามารถเข้าถึงรูปแบบการเรียนได้ในทุกเทคโนโลยี ทุกเครื่องมือสื่อสาร เพื่อตอบรับพฤติกรรมการใช้งานของผู้เรียนให้ได้มากที่สุด ในปัจจุบันผู้เรียน Live English Classroom นิยมเรียนบนสมาร์ทโฟน (Smartphone) เป็นอันดับแรกกว่า 50 % ตามด้วยเดสก์ทอป (Desktop) 45% และแท็บเล็ต (Tablet) อยู่ที่ 5%” นายธกานต์ กล่าว