ปิดฉาก! ตำนาน 20 ปีโรงงานผลิต ‘เชฟโรเลต’ จ.ระยอง หลังยักษ์ใหญ่แดนมังกร ‘เกรท วอล มอเตอร์ส’ จ่อเทคโอเวอร์ภายในสิ้นปีนี้

ปิดฉาก! โรงงานผลิต “เชฟโรเลต” จ.ระยอง ภายในสิ้นปีนี้ หลัง “เกรท วอล มอเตอร์ส” ยักษ์ใหญ่แดนมังกรเตรียมซื้อโรงงาน เสริมแกร่งบริษัทในไทย-อาเซียน

รายงานข่าวจากสำนักข่าวซินหัว ระบุว่า เมื่อวันที่ 17 ก.พ. ที่ผ่านมา เกรท วอล มอเตอร์ส (Great Wall Motors) บริษัทผู้ผลิตรถยนต์อเนกประสงค์ (SUV) และรถกระบะยักษ์ใหญ่จากประเทศจีน ได้แถลงว่า จะซื้อโรงงานผลิตรถยนต์ของบริษัทเจนเนอรัล มอเตอร์ส (General Motors) หรือ จีเอ็ม ผู้ผลิตรถยนต์ชื่อดังอย่างเชฟโรเลต (Chevrolet) ซึ่งตั้งอยู่ในจังหวัดระยองของประเทศไทย

ทั้งนี้ ตามข้อตกลงซึ่งลงนามโดยทั้ง 2 บริษัท คาดว่า ขั้นตอนการซื้อขายและส่งมอบ จะแล้วเสร็จภายในสิ้นปี 2020 โดยการถ่ายโอนในครั้งนี้ ครอบคลุมโรงงานผลิตรถยนต์ และโรงประกอบชุดเครื่องยนต์ ในจังหวัดระยอง ซึ่งปัจจุบันดำเนินการโดยผู้ผลิตรถยนต์ดีทรอยต์ (Detroit) ในฐานะศูนย์การผลิตระดับภูมิภาค โรงงานในจังหวัดระยองผลิตรถยนต์ไปแล้วกว่า 1.4 ล้านคัน เป็นเวลากว่า 20 ปีนับตั้งแต่เริ่มดำเนินการในปี 2000

สำหรับการซื้อโรงงานในครั้งนี้นั้น จะกลายเป็นการซื้อฐานผลิตยานยนต์ครบวงจรในระดับโลกลำดับที่ 11 ของบริษัทเกรท วอล มอเตอร์ส และลำดับที่ 3 โดยโรงงานของบริษัทที่ตั้งอยู่นอกจีน ตามหลังอันดับ 1 อย่างศูนย์การผลิตระดับภูมิภาคทูล่า (Tula) ในประเทศรัสเซีย ซึ่งเปิดดำเนินการตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2019 และอันดับ 2 อย่างเทลากอน (Talegaon) ในประเทศอินเดีย ซึ่งซื้อมาจากบริษัทเจนเนอรัล มอเตอร์ส ช่วงต้นปี 2020

หลิวเซียงชาง รองประธานฝ่ายกลยุทธ์ระดับโลกของ เกรท วอล มอเตอร์ส เปิดเผยว่า การซื้อโรงงานผลิตในครั้งนี้ จะช่วยส่งเสริมการพัฒนาของบริษัทในประเทศไทย และตลาดอาเซียน ทั้งยังช่วยด้านการส่งออกผลิตภัณฑ์ไปยังประเทศอาเซียน และประเทศอื่นๆ เช่น ออสเตรเลีย เป็นต้น

“ตลาดยานยนต์ในอาเซียนกำลังพัฒนาไปพร้อมกับโอกาสและศักยภาพที่ดี การลงทุนของเราจะสร้างอาชีพให้กับคนในท้องถิ่น พัฒนาทักษะ กระตุ้นการวิจัยและพัฒนา และอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องอีกด้วย” หลิวเซียงชาง กล่าว

สำนักงานใหญ่ของเกรท วอล มอเตอร์ส ตั้งอยู่ในเมืองเป่าติ้ง มณฑลเหอเป่ย ทางตอนเหนือของประเทศจีน บริษัทเป็นผู้ผลิตรถยนต์อเนกประสงค์ และรถยนต์อื่นๆ อีกหลายแบรนด์ เช่น ฮาวัล (Haval), Great Wall (เกรท วอล), เวย์ (WEY) และ โอร่า (ORA) ด้วยสาขาที่ตั้งอยู่ในต่างประเทศมากกว่า 500 สาขา สินค้าของบริษัทถูกส่งออกไปยังกว่า 60 ประเทศ และภูมิภาค ซึ่งรวมถึงประเทศสมาชิกในโครงการหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง (BRI) ด้วย