‘บิ๊กตู่’ มอบนโยบายจัดทำงบปี 64 ด้าน ‘ศักดิ์สยาม’ เข็นมาตรการลดค่าใช้จ่าย ปชช. ดีเดย์มอบของขวัญปีใหม่ 25 ธ.ค. นี้

“บิ๊กตู่” สั่ง “คมนาคม” ดึงยุทธศาสตร์ชาติประกอบการจัดทำงบประมาณปี 64 พร้อมกำชับพิจารณาโครงการฯ อย่างละเอียด หวั่นสร้างหนี้สาธารณะเกินเพดาน ด้าน “ศักดิ์สยาม” เรียกหน่วยงานถกความพร้อมโปรเจ็กต์ต่างๆ หวังเตรียมความก่อนลุยดำเนินการ ฟาก “มาตรการลดค่าใช้จ่าย ปชช.” ตบเท้าเข้า ครม.พรุ่งนี้ ก่อนสตาร์ทเริ่มมอบของขวัญปีใหม่ 25 ธ.ค.นี้

นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า ตามที่ในวันนี้ (23 ธ.ค. 2562) พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้มอบนโยบายการจัดทำงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2564 และเร่งรัดการเบิกจ่ายงบประมาณนั้น ได้ได้สั่งการให้กระทรวงคมนาคมนำยุทธศาสตร์ชาติระยะ 20 ปีมาประกอบการพิจารณา พร้อมกำหนดแผนปฏิบัติการ (Action Plan) อย่างชัดเจน และเป็นรูปธรรม นอกจากนี้ จะต้องพิจารณาโครงการต่างๆ ในอนาคต ที่อาจจะทำให้หนี้สาธารณะเพิ่มขึ้นด้วย โดยจะต้องไม่เกินเพดานที่กำหนดไว้ อย่างไรก็ตาม ในส่วนของแผนการลงทุนในอนาคตนั้น มีแนวทางที่จะให้ประชาชนเข้าร่วมลงทุนมากขึ้น แต่ต้องคำนึงถึงความเหมาะสมมากที่สุด

ทั้งนี้ ในวันพรุ่งนี้ (24 ธ.ค. 2562) จะเรียกหัวหน้าหน่วยงาน ทั้งส่วนราชการ และรัฐวิสาหกิจ มาประชุมพิจารณาโครงการที่จะดำเนินการในปีงบประมาณ 2563 มาหารือถึงความพร้อมของแต่ละหน่วยงานในโครงการต่างๆ ว่าจะต้องมีการปรับแก้ไขหรือไม่อย่างไร รวมถึงพิจารณาในส่วนของรูปแบบการลงทุนที่เหมาะสม เช่น การให้เอกชนเข้ามาร่วมลงทุนในกิจการของรัฐ (PPP) กองทุนโครงสร้างพื้นฐานเพื่ออนาคตประเทศไทย (TFF) เป็นต้น

นายศักดิ์สยาม กล่าวต่ออีกว่า ในวันพรุ่งนี้ กระทรวงคมนาคมเตรียมเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณามาตรการลดค่าใช้จ่ายให้กับประชาชนด้วย หลังจากเมื่อวันที่ 17 ธ.ค.ที่ผ่านมานั้น กระทรวงคมนาคมได้สอบถามความเห็นไปยังสำนักงบประมาณว่า การใช้มาตรการดังกล่าว เป็นอำนาจการอนุมัติของ ครม. หรือเพียงแค่ของบอร์ดเท่านั้น อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่า จะเริ่มมาตรการลดค่าใช้จ่ายให้กับประชาชนได้ตั้งแต่วันที่ 25 ธ.ค. 2562

รายงานข่าวจากกระทรวงคมนาคม ระบุว่า มาตรการลดค่าใช้จ่ายของประชาชน เพื่อเป็นของขวัญปีใหม่ให้กับประชาชนนั้น  ประกอบด้วย การลดราคาค่าโดยสารรถไฟฟ้าสายสีม่วงตลอดทั้งวันราคาสูงสุดไม่เกิน 20 บาทตลอดสาย จากเดิมราคาสูงสุด 42 บาท โดยใช้ได้ทั้งบัตรโดยสารประเภทบุคคลทั่วไป และผู้ซื้อเหรียญโดยสาร ระหว่างวันที่ 25 ธ.ค. 2562 – 31 มี.ค. 2563 รวมระยะเวลา 3 เดือน

ในส่วนของดอนเมืองโทลล์เวย์นั้น ได้จัดทําคูปองลด 5% เพื่อใช้จ่ายค่าผ่านทางดอนเมืองโทลล์เวย์ เพื่อช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายประชาชน โดยคูปอง 1 ชุดมี 20 ใบ มูลค่า 1,520 บาท สําหรับค่าผ่านทาง 80 บาท (ราคาเต็ม 1,600 บาท) และมูลค่า 665 บาท สําหรับค่าผ่านทาง 35 บาท (ราคาเต็ม 700 บาท) ซึ่งสามารถซื้อคูปองได้ที่ตู้เก็บเงินค่าผ่านทางทุกตู้ทุกด่าน (เริ่มจําหน่าย 22 ธ.ค. 2562 เป็นต้นไป) โดยมาตรการคูปองลดราคานั้น ระยะเวลา 6 เดือน หากซื้อคูปองแล้วสามารถใช้ได้ 5 ปี

ขณะที่ องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) ลดภาระค่าโดยสารให้แก่ผู้ถือบัตรโดยสารอิเล็กทรอนิกส์ (บัตรโดยสาร ราคา 50 บาท ซึ่งมีจำหน่ายเฉพาะบนรถโดยสาร) และที่นำบัตรมาใช้ชำระค่าโดยสาร แบ่งเป็น รถโดยสารปรับอากาศ (รถแอร์) ลดราคา 10% และรถโดยสารธรรมดา (รถร้อน) ลดราคา 5% ตั้งแต่วันที่ 1 ธ.ค.2562 – 31 ม.ค. 2563 รวมระยะเวลา 2 เดือน

นอกจากนี้ ยังมีการลดค่ารถไฟฟ้าแอร์พอร์ต เรล ลิงก์ (พญาไท-สนามบินสุวรรณภูมิ) จะจัดเก็บในอัตราสูงสุดไม่เกิน 25 บาท/คน/เที่ยว หรือ 25 บาทตลอดสาย จากราคาปกติคิดตามระยะทาง 15 -45 บาท โดยกำหนดช่วงเวลาเร่งด่วน (Off-peak) แบ่งเป็น ช่วง 05.30-07.00 น. ช่วง 10.00-17.00 น.และช่วง 20.00-24.00 น. ทั้งนี้ คณะกรรมการ (บอร์ด) การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) จะเป็นผู้พิจารณาอนุมัติ ก่อนเสนอเรื่องมายังกระทรวงคมนาคมต่อไป ในส่วนของ รฟท. นั้น เตรียมมอบข้าวสารหอมมะลิ จากจังหวัดแพร่ ให้กับผู้โดยสารที่ซื้อตั๋วรถไฟด้วย ด้านการทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) นั้น จะลดราคาค่าทางด่วน 5 บาทต่อเที่ยว ใน 114 ด่าน