กระทรวงพาณิชย์นำทัพเยือนอาลีบาบาเพื่อเปิดตัวแคมเปญขายข้าวไทยผ่าน Tmall

การเปิดตัวผลิตภัณฑ์ข้าวไทยเกรดพิเศษในทีมอลล์ เป็นส่วนหนึ่งของกระทรวงพาณิชย์และความพยายามร่วมกันอย่างต่อเนื่องของอาลีบาบาในการขยายการส่งออกสินค้าไทยผ่านอีคอมเมิร์ซ

นางสาวชุติมา บุณยประภัศร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ นำทีมผู้บริหารกระทรวงพาณิชย์ เข้าร่วมงานเปิดตัว “Tmall Super Selection Day – World’s Best Rice” ซึ่งจัดขึ้นในวันที่ ต.ค.61 ที่สำนักงานใหญ่ อาลีบาบา กรุ๊ป ณ เมืองหังโจว มณฑลเจ้อเจียง สาธารณรัฐประชาชนจีน เพื่อร่วมแสดงความยินดีที่ข้าวไทยในโครงการ Thai Rice Flagship Store ประสบความสำเร็จในการขายข้าวในตลาดจีนผ่านเว็บไซต์ Tmall.com ซึ่งเป็นแคมเปญส่งเสริมการขายที่มีขนาดใหญ่เป็นครั้งแรกโดยแพลตฟอร์ม ทีมอลล์ ของอาลีบาบาซึ่งมุ่งเน้นผลิตภัณฑ์ข้าวจากพื้นที่การผลิตข้าวที่สำคัญ ๆ รวมทั้งประเทศไทย

การเยือนครั้งนี้เกิดจากความร่วมมือระหว่างรัฐบาลไทยและอาลีบาบากรุ๊ปในเดือน เม.ย.61 และเป็นการแสดงให้เห็นถึงความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิด เพื่อส่งเสริมการส่งออกสินค้าไทยไปยังประเทศจีนผ่านอีคอมเมิร์ซรวมถึงวัตถุประสงค์อื่นๆ

“Tmall Super Selection Day – World’s Best Rice” ซึ่งจะดำเนินกิจกรรมอย่างเป็นทางการในวันที่ 10-11 ต.ค. เป็นส่วนหนึ่งของแคมเปญพิเศษที่จัดโดยทีมอลล์ ที่ส่งเสริมประเภทสินค้าประเภทต่างๆ ตั้งแต่น้ำดื่มบรรจุขวดแบบพรีเมี่ยมไปจนถึงอุปกรณ์ในห้องน้ำระดับไฮเอนด์ ซึ่งเป็นที่ต้องการของผู้บริโภคชาวจีนที่เริ่มเสาะหาสินค้าที่มีคุณภาพ แคมเปญครั้งนี้จะมีผลิตภัณฑ์ข้าวที่คัดสรรมาจากฐานการผลิตข้าวที่สำคัญทั่วโลกผ่านการส่งเสริมทางออนไลน์รูปแบบต่างๆ โดยประเทศไทยเป็นจุดสนใจหลัก

หนึ่งในไฮไลท์ของแคมเปญนี้คือ ข้าว นครราชสีมา กข43″ ซึ่งเป็นข้าวเกรดพรีเมี่ยมใหม่ที่พัฒนาขึ้นภายใต้การกำกับดูแลของรัฐบาลไทยและได้รับการออกแบบมาเพื่อผู้บริโภคที่ใส่ใจในสุขภาพ ซึ่งจะเปิดตัวสู่ตลาดโลกบน Thai Rice Flagship Store ภายใต้ ทีมอลล์  โดยรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์จะร่วมพิธีเปิดตัวข้าวพันธุ์ กข43 อย่างเป็นทางการในระหว่างการเยือนสำนักงานใหญ่ของอาลีบาบาในวันนี้

นางสาวชุติมา บุณยประภัศร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์

ดิฉันรู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของงานวันนี้และมีความยินดีที่ผู้บริโภคชาวจีนชอบข้าวไทยและสั่งซื้อข้าวไทยผ่านทางออนไลน์ นอกจากข้าวหอมมะลิและผลิตภัณฑ์ข้าวอื่นๆ ที่ กระทรวงพาณิชย์ กำลังทำงานร่วมกับอาลีบาบาในการทำตลาดผ่านทาง Thai Rice Flagship Store ภายใต้ ทีมอลล์ เรายังอยากแนะนำข้าวพันธุ์อื่นให้กับผู้บริโภคชาวจีน เช่น พันธุ์ กข43 ซึ่งถือเป็นข้าวพันธุ์พิเศษที่มีผลดีต่อสุขภาพ ซึ่งจากการศึกษาวิจัยพบว่า มีค่าการแตกตัวเป็นน้ำตาลน้อย และมีค่าดัชนีน้ำตาล (ค่า GI) อยู่ปานกลางค่อนข้างต่ำ ถือเป็นข้าวทางเลือกของผู้ใส่ใจสุขภาพ เหมาะกับผู้บริโภคชาวจีนรุ่นใหม่ที่มีกำลังซื้อสูง และให้ความสนใจกับการรักษาสุขภาพและความกินดีอยู่ดี”

“นอกจากนั้น เรายังต้องการผลักดันข้าวสังข์หยดเมืองพัทลุง ข้าวฮางหอมทองสกลทวาปี ซึ่งข้าวเหล่านี้เป็นข้าวพิเศษที่มีเอกลักษณ์ของแต่ละพื้นที่ และเป็นสินค้าสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์   นอกจากนี้เรายังอยากจะแนะนำผลิตภัณฑ์ข้าวที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวซึ่งมีสิ่งบ่งชี้
ทางภูมิศาสตร์เช่นข้าวสารจากจังหวัดพัทลุงและข้าวสารฮ่อไทยทองคำขาววดี” รมช.พาณิชย์ กล่าว

นอกจากนี้ กระทรวงพาณิชย์ ยังจะมีความร่วมมือในการผลักดันผลิตภัณฑ์จากข้าวมากขึ้น เช่น น้ำมันรำข้าว น้ำมันจมูกข้าว ซีรัมบำรุงผิวและขนมขบเคี้ยวที่ทำจากข้าว ให้กับประเทศจีน เราเชื่อว่าการส่งเสริมการส่งออกสินค้าพรีเมี่ยมของไทยเช่นข้าวและผลิตภัณฑ์จากข้าว ผลไม้และกล้วยไม้ไปยังจีนผ่านช่องทางออนไลน์จะช่วยส่งเสริมให้สังคมจีนมีสุขภาพที่ดีขึ้นอย่างแท้จริง

ประเทศไทยเป็นประเทศที่มีสินค้าพรีเมี่ยมที่หลากหลายมากมายซึ่งเราเชื่อว่าเป็นที่สนใจของผู้บริโภคชาวจีนในปัจจุบัน เรามีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้ร่วมมือกับรัฐบาลไทยในการริเริ่มโครงการขายข้าวไทยหลากหลายพันธุ์ผ่านทางแพลตฟอร์มของเราและช่วยผู้บริโภคในการค้นพบสิ่งที่พวกเขาชื่นชอบ เราจะยังคงทำงานอย่างใกล้ชิดกับรัฐบาลไทยในการส่งเสริมการผลิตภัณฑ์ทางการเกษตรของไทยในประเทศจีนผ่านทาวอีโคซิสเต็มของเรา ทั้งช่องทางออนไลน์และออฟไลน์ รวมทั้งให้ข้อมูลเชิงลึกของผู้บริโภคเพื่อสนับสนุนการพัฒนาภาคเกษตรของไทย” นายเจี๋ย จื้ง ประธานทีมอล กล่าว

การเข้าเยี่ยมชมของรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ครั้งนี้ถือเป็นการเฉลิมฉลองความสำเร็จครั้งแรกของ Thai Rice Flagship Store ภายใต้  ทีมอลล์ ที่กระทรวงพาณิชย์และอาลีบาบาเริ่มความร่วมมือกันตั้งแต่เดือน เม.ย.61 นับตั้งแต่เปิดดำเนินการร้านได้ขยายการให้บริการผลิตภัณฑ์มากกว่า 160 รายการสินค้า (SKUs) จาก 12 แบรนด์ไทย และสินค้ายอดนิยมต่างๆ รวมทั้ง ข้าวหอมมะลิและผลิตภัณฑ์ข้าวคุณภาพสูง ซึ่งแบรนด์เหล่านี้ไม่เพียงแค่ขายผ่านทาง ทีมอลล์เท่านั้น แต่ยังมีจำหน่ายในช่องทางค้าปลีกแบบออฟไลน์ในระบบนิเวศของอาลีบาบาเช่น Hema Fresh และ RT-Mart

ทั้งนี้ กระทรวงพาณิชย์และอาลีบาบาตั้งเป้าหมายเพื่อขยายจำนวนผลิตภัณฑ์ในร้านค้าให้มากขึ้นกว่า500 รายการสินค้า (SKUs) ภายในสิ้นปีนี้ นอกจากข้าวทั้งสองฝ่ายจะร่วมกันจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ไทยอื่น ๆ เช่น ผลไม้ กล้วยไม้ อัญมณีและเครื่องประดับให้กับผู้บริโภคชาวจีนผ่านช่องทางภายในระบบนิเวศของอาลีบาบา

การผลักดันการส่งออกข้าวไทยและผลิตภัณฑ์ไทยอื่น ๆ เป็นส่วนหนึ่งของความมุ่งมั่นอย่างต่อเนื่องของอาลีบาบาในการส่งเสริมการปฏิรูประบบดิจิทัลภายใต้นโยบายของรัฐบาลไทย โดยตั้งแต่เดือน เม.ย.61 อาลีบาบาก็มีความคืบหน้าอย่างมากในด้านต่างๆ เพื่อผลักดันให้บรรลุเป้าหมายนี้ ตั้งแต่การริเริ่มความร่วมมือกับสหกรณ์การเกษตรผ่านทางแพลตฟอร์มการจัดหาอาหารสดของ Win-Chain เพื่อส่งเสริมการส่งออกทุเรียนของไทย

รวมทั้งการจัดอบรมหลักสูตรของ อาลีบาบาโกลบอล เพื่อเผยแพร่ความรู้ด้านอีคอมเมิร์ซให้กับผู้เข้าร่วมกว่า 700 คนที่เป็นตัวแทนธุรกิจกว่า 300 แห่งของไทย ไปจนถึงการเป็นผู้นำในการจัดโครงการ “Global E-commerce Talent – Train the Trainers” ระดับโลกครั้งแรกในพื้นที่ Eastern Economic Corridor (EEC) เพื่อปลูกฝังให้อาจารย์มหาวิทยาลัยจำนวน 48 คน จากสถาบันการศึกษา 10 แห่งที่จะถ่ายทอดความรู้ทางด้าน การทำธุรกิจออนไลน์ให้แก่นักเรียนของสถาบันนั้นๆ