‘นกแอร์’ ดีเดย์! เปิดบินตรง ‘ดอนเมือง-ฮิโรชิม่า’ 18 ธ.ค.นี้ กางแผนปี 63 รุกตลาดต่างประเทศมากขึ้น

“นกแอร์” ดีเดย์! เปิดบินตรง “ดอนเมือง-ฮิโรชิม่า” 18 ธ.ค.นี้ ซัพพอร์ตกลุ่มนักท่องเที่ยว-นักธุรกิจ พ่วงช่วยย่นระยะเวลาเหลือ 5 ชม. พร้อมเล็งเปิดรูทใหม่ปีหน้า รุกตลาดหลัก “จีน-อินเดีย-ญี่ปุ่น” ปรับสัดส่วนเน้นอินเตอร์มากขึ้น

นายวุฒิภูมิ จุฬางกูร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สายการบินนกแอร์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ในวันที่ 18 ธ.ค.นี้ สายการบินนกแอร์เตรียมเปิดบินตรงเส้นทาง กรุงเทพฯ (ดอนเมือง) – ฮิโรชิม่า ประเทศญี่ปุ่น เพื่อตอบโจทย์ผู้โดยสาร ทั้งกลุ่มนักท่องเที่ยว และกลุ่มนักธุรกิจ เนื่องจากเมืองฮิโรชิม่า ยังถือเป็นอีกเมืองอุตสาหกรรมของญี่ปุ่นด้วย ทั้งนี้ การเปิดเส้นทางดังกล่าวนั้น จะช่วยลดระยะเวลาการเดินทางเหลือเพียง 5 ชั่วโมงเท่านั้น จากเดิมจะต้องนั่งเครื่องบินไปยังโอซาก้า ต่อด้วยการนั่งรถไฟชิงคันเซ็นเพื่อไปยังเมืองฮิโรชิม่า ซึ่งจะใช้เวลาประมาณ 15 ชั่วโมง

ในส่วนของฝูงบินนั้น นายวุฒิภูมิ สายการบินนกแอร์เตรียมรับมอบเครื่องบินโบอิ้ง 737-800 อีก 2 ลำภายในเดือน พ.ย.นี้ ซึ่งจะทำให้สิ้นปีนี้ จะมีฝูงบินมี 24 ลำ แบ่งเป็น โบอิ้ง 737-800 จำนวน 16 ลำ และเครื่องบินใบพัด Q-400 จำนวน 8 ลำ

นอกจากนี้ ในปี 2563 มีแผนที่จะรับมอบเครื่องบินโบอิ้ง 737-800 เพิ่มอีก 2 ลำ โดยจะทยอยรับมอบในเดือน ส.ค. และเดือน ต.ค. 2563 ตามลำดับ เพื่อรองรับการเปิดเส้นทางบินใหม่ ในญี่ปุ่น อินเดีย และจีน ซึ่งถือเป็นตลาดหลักของสายการบินนกแอร์ โดยในขณะนี้อยู่ระหว่างการศึกษาเปิดเส้นทางบินใหม่ เช่น วิสาขปัตนัม (อินเดีย) โอกินาว่า (ญี่ปุ่น) คาโกชิม่า (ญี่ปุ่น) เหอเป่ย (จีน) เป็นต้น รวมถึงมีแผนเพิ่มจุดบินจากเชียงใหม่ และภูเก็ต ไปยังประเทศจีน อาทิ ภูเก็ต-เซี่ยงไฮ้ เชียงใหม่-เซี่ยงไฮ้  อีกทั้ง จะมีการบินเสริมให้กับสายการบินนกสกู๊ตในบางเส้นทางด้วย หรือจะนำร่องในเส้นทางดอนเมือง-หนานจิง

ขณะเดียวกัน สายการบินนกแอร์ตั้งเป้าจะเพิ่มสัดส่วนเส้นทางบินต่างประเทศเป็น 30% จากในปัจจุบันอยู่ที่ 20% ทั้งในส่วนของเที่ยวบินเช่าเหมาลำ (ชาร์เตอร์ไฟลท์) และเที่ยวบินประจำ เพื่อเพิ่มรายได้เสริม และช่วยลดต้นทุนในการดำเนินการด้วย ทั้งยังเป็นการช่วยเพิ่มอัตราการใช้เครื่องบิน (Utilization) เป็น 12 ชั่วโมงต่อวันในปีหน้า โดยในปีนี้อยู่ที่ 11 ชั่วโมงต่อวัน