อพท. ผุด 4 เส้นทางท่องเที่ยวเชื่อมฝั่งทะเลตะวันตก นำร่อง ‘เพชรบุรี-ประจวบฯ’ หวังกระจายรายได้สู่ชุมชน

อพท. ผนึกกำลังรัฐ-เอกชน-ท้องถิ่น ผุด 4 เส้นทางท่องเที่ยวเชื่อมโยงเขตพัฒนาการท่องเที่ยวฝั่งทะเลตะวันตก นำร่อง “เพชรบุรี-ประจวบฯ” ชูกิจกรรมท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์-อัตลักษณ์จังหวัด ในธีม “รัก แลก พบ” หวังกระจายรายได้-นักท่องเที่ยว พร้อมดึงเม็ดเงินท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น เล็งแบ่งเงินจัดตั้งกองทุนชุมชน สร้างการศึกษา-อัพเกรดคุณภาพชีวิตผู้สูงอายุ

นายสุเทพ เกื้อสังข์ รองผู้อำนวยการองค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน (องค์การมหาชน) หรือ อพท. ในฐานะประธานคณะทำงาน เปิดเผยว่า อพท. เตรียมประกาศพื้นที่พิเศษ โดยนำร่องยกระดับพื้นที่จังหวัดเพชรบุรี และจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ โดยเริ่มจากการพัฒนาเส้นทางการท่องเที่ยวเชื่อมโยงเขตพัฒนาการท่องเที่ยวฝั่งทะเลตะวันตก จำนวน 4 เส้นทาง โดยภายหลังจากการลงพื้นที่เสาะหาแหล่งและกิจกรรมการท่องเที่ยวที่มีความโดดเด่นนั้น ได้ทำงานร่วมกับชุมชน ส่งเสริมการมีส่วนร่วมในการพัฒนา พร้อมผนึกกำลังกับหน่วยงานภาคีภาครัฐในพื้นที่ และเครือข่ายการท่องเที่ยวภาคเอกชนด้วย

ทั้งนี้ ในส่วนของ 4 เส้นทางดังกล่าวนั้น ได้กำหนดในธีม “รัก แลก พบ” ประกอบด้วย 1.เส้นทางท่องเที่ยว จ.เพชรบุรี ภายใต้ธีม “เพชรริมเล เสน่ห์ชุมชน” 2.เส้นทางท่องเที่ยว จ.ประจวบคีรีขันธ์ ในธีม “ประจวบอัศจรรย์ สีสันชุมชน” 3.เส้นทางท่องเที่ยวเชื่อมโยงเพชรบุรี – ประจวบคีรีขันธ์ ในธีม “ดูเล แลเมือง ร้อยเรื่องชุมชน” และ 4.เส้นทางในธีม “สร้างสุข บำรุงใจ” คือ เส้นทางท่องเที่ยวอารยสถาปัตย์ เพื่อรองรับนักท่องเที่ยวกลุ่มผู้พิการ ที่เคลื่อนไหวยาก สตรีมีครรภ์ และผู้สูงอายุ ในการส่งเสริมให้ได้ออกท่องเที่ยวกับครอบครัวอีกด้วย

นายสุเทพ กล่าวต่ออีกว่า โครงการดังกล่าว อพท. ได้ตั้งเป้าหมายต้องการที่จะประชาสัมพันธ์ สร้างการรับรู้แก่นักท่องเที่ยวให้ 4 เส้นทางนั้น เป็นจุดหมายปลายทางของนักท่องเที่ยว และสร้างรูปแบบการท่องเที่ยวใหม่ๆ ที่นอกเหนือจากแหล่งท่องเที่ยวหลัก พร้อมทั้งให้การท่องเที่ยวโดยชุมชนเป็นที่ชื่นชอบและได้รับความนิยม เพื่อมุ่งกระจายรายได้สู่ชุมชน ส่งเสริมเศรษฐกิจฐานราก ให้ชุมชนเจ้าของแหล่ง หรือกิจกรรมการท่องเที่ยวได้พัฒนาศักยภาพชุมชน สร้างรายได้เสริมโดยการท่องเที่ยวให้เกิดการมีส่วนร่วมที่เข้มแข็ง และการพัฒนาที่ยั่งยืนต่อไป นอกจากนี้ ยังมีแผนที่จะแบ่งรายได้จากการท่องเที่ยว ประมาณ 5-10% ขึ้นอยู่กับศักยภาพ จัดตั้งเป็นกองทุนของแต่ละชุมชน นำไปบริหารจัดการเพื่อเป็นทุนการศึกษา ค่าใช้จ่ายของผู้สูงอายุด้วย อย่างไรก็ตาม การพัฒนาด้านการท่องเที่ยวที่ อพท. กำหนดตำแหน่งทางการตลาดไว้นั้น จะสอดคล้องกับอัตลักษณ์และบริบทของพื้นที่นั้นๆ 

“เราต้องการกระจายตัวของนักท่องเที่ยวที่มีอยู่เดิม มาท่องเที่ยวชุมชนด้วย เพื่อเป็นการกระจายรายได้ไปสู่ชุมชนอีกทาง โดยจากสถิติพบว่า 60% เกิดการท่องเที่ยวซ้ำ แต่ยังกระจุกตัวอยู่แหล่งท่องเที่ยวหลักเดิมๆ การจัดทำโครงการในครั้งนี้ จึงอยากให้นักท่องเที่ยวทราบว่ามีอะไรใหม่ๆ บ้าง ซึ่งความท้าทายของ อพท.ในตอนนี้ คือ การที่จะทำอย่างไรให้นักท่องเที่ยวมีค่าใช้จ่ายต่อคนต่อวันเพิ่มขึ้น และนำไปสู่ความยั่งยืน” นายสุเทพ กล่าว

สำหรับจังหวัดเพชรบุรีและจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ มีทรัพยากรการท่องเที่ยวที่หลากหลาย และแหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักของนักท่องเที่ยว มีเส้นทางคมนาคมเชื่อมโยงเข้าถึงแหล่งท่องเที่ยว เช่น ชายหาด อุทยานแห่งชาติ แหล่งท่องเที่ยวเชิงนิเวศ แหล่งท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ แหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตร และแหล่งท่องเที่ยวทางนันทนาการ ตลอดจนโครงการตามพระราชดำริของในหลวงรัชกาลที่ 9 และแหล่งท่องเที่ยวโดยชุมชนที่น่าสนใจจำนวนมาก