บอร์ด รฟท.ไฟเขียวไฮสปีดไทย-จีน สัญญา 2.3 พ่วงเห็นชอบอาณัติสัญญาณทางคู่ 1.1 หมื่นล้าน

บอร์ด รฟท.ไฟเขียวสัญญา 2.3 งานระบบไฮสปีดไทย-จีน คาดชง ครม. ลงนามต้นเดือน พ.ย.นี้ พร้อมเห็นชอบผลประมูลจัดหาและติดตั้งระบบอาณัติสัญญาณรถไฟทางคู่ 3 เส้นทาง มูลค่า 1.1 หมื่นล้าน ครอบคุมเหนือ-อีสาน-ใต้

นายวรวุฒิ มาลา รักษาการผู้ว่าการการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เปิดเผยถึงผลประชุมคณะกรรมการ (บอร์ด) รฟท. ที่มีนายจิรุตม์ วิศาลจิตร เป็นประธานฯว่า ที่ประชุมอนุมัติวาระสำคัญ 2 เรื่อง ประกอบด้วย 1.อนุมัติการเปลี่ยนแปลงรายละเอียดของงานในสัญญา 2.3 โครงการรถไฟความเร็วสูงความร่วมมือไทย-จีน เส้นทางกรุงเทพฯ-นครราชสีมา ระยะทาง 253 กม. ในส่วนของสัญญา 2.3 (งานระบบราง ระบบไฟฟ้าและเครื่องกล รวมทั้งจัดหาขบวนรถไฟและฝึกอบรมบุคลากร) ที่มีการปรับ จาก 38,558.38 ล้านบาท เป็น 50,633.50 ล้านบาท ซึ่งรัฐบาลมีเป้าหมายที่จะลงนามกับจีนได้ในช่วงการประชุม สุดยอดอาเซียน ครั้งที่ 35 (อาเซียน ซัมมิท) ช่วงต้น พ.ย. 2562

สำหรับสัญญาดังกล่าวนั้น มีการเปลี่ยนแปลงตัวรถไฟความเร็วสูงให้เป็นรุ่นที่ทันสมัยมากขึ้น รวมทั้งรายละเอียดงานก่อสร้างอุโมงค์ แม้จะเปลี่ยนสัญญา 2.3 ยืนยันว่าจะไม่กระทบวงเงินก่อสร้างทั้งโครงการกว่า 179,412 ล้านบาท ทั้งนี้ หลังจากบอร์ดอนุมัติการแก้ไขสัญญา 2.3 แล้วนั้น จะเสนอไปยังกระทรวงคมนาคม เพื่อขอความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรี (ครม.) ต่อไป

“เนื่องจากมีการเปลี่ยนแปลงรายละเอียดวงเงินและเนื้องานจากที่เคยเสนอครม.ไว้ จากมีการปรับเปลี่ยนรถไฟความเร็วสูง จากรุ่น เหอเสีย (Hexia) เป็นรุ่น ฟู่ซิ่ง (Fuxing) ที่ใหม่กว่ามีเทคโนโลยีทันสมัยและมีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้น และปรับการก่อสร้างโดยเฉพาะช่วงอุโมงค์ และโยกเนื้องานจากสัญญาโยธา เช่น โรงเชื่อมราง รถซ่อมบำรุง รถตรวจสภาพทาง โดยการปรับเพิ่มวงเงินสัญญา 2.3 ดังกล่าวจะไม่กระทบต่อกรอบวงเงินโครงการลงทุน” นายวรวุฒิ กล่าว

นายวรวุฒิ กล่าวต่ออีกว่า 2.เห็นชอบผลการประมูลโครงการจัดหาและติดตั้งระบบอาณัติสัญญาณรถไฟทางคู่ ตามที่บอร์ดชุดที่แล้วตั้งอนุกรรมการศึกษารายละเอียดเสร็จเรียบร้อย โดยโครงการลงทุนระบบอาณัติสัญญาณ และโทรคมนาคม ในโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ 3 เส้นทาง รวมมูลค่า 11,494.271 ล้านบาท ประกอบด้วย สายเหนือ ช่วงลพบุรี-ปากน้ำโพ ระยะทาง 148 กม. จำนวน 20 สถานี ราคากลาง 2,782.843 ล้านบาท, สายอีสานช่วงมาบกะเบา-ชุมทางถนนจิระ ระยะทาง 132 กม. จำนวน 20 สถานี ราคากลาง 2,460.738 ล้านบาท และสายใต้ช่วงนครปฐม-ชุมพร ระยะทาง 169 กม. จำนวน 59 สถานี ราคากลาง 6,250.65 ล้านบาท หลังจากบอร์ดอนุมัติและเตรียมลงทุนกับเอกชนที่ชนะการประมูล คาดว่าจะสามารถลงนามปี 2562 ถึงต้นปี 2563 เพื่อเร่งรัดโครงการที่ช้ามาระยะหนึ่งให้คืบหน้าได้อย่างรวดเร็ว

“การกำหนดการก่อสร้างรถไฟทางคู่เส้นทางต่างๆ รฟท.ประเมินว่างานโยธาสายใต้จะเสร็จปี 2564 สายเหนือปี 2565 และสายอีสานปี 2566 แต่ละเส้นทางเมื่อก่อสร้างงานโยธาจะใช้เวลาอีกเส้นทางละ 6 เดือน เพื่อติดตั้งระบบอาณัติสัญญาณตามที่บอร์ดอนุมัติ” นายวรวุฒิ กล่าว

ด้านนายจิรุตม์ วิศาลจิตร ประธานบอร์ด รฟท. กล่าวว่า หลังได้รับการแต่งตั้ง บอร์ด รฟท.ได้เร่งประชุมเพื่อพิจารณาโครงการเร่งด่วน ทั้งรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน, โครงการรถไฟความเร็วสูงไทย-จีน และปัญหาคดีโฮปเวลล์ เรียบร้อยแล้ว ซึ่งหลังจากนี้ บอร์ดจะประชุมเดือนละ1 ครั้ง แต่หากมีเรื่องเร่งด่วนจะนัดประชุมเพิ่มเติมได้ และได้ตั้งคณะกรรมการบริหาร มีนายอำนวย ปรีมนวงศ์ กรรมการ รฟท. เป็นประธาน นอกจากนี้ ยังมีผู้แทนจากกรมการขนส่งทางราง (ขร.) ผู้เชี่ยวชาญทางการเงินและทางกฎหมาย เพื่อทำหน้าที่ในการกลั่นกรองวาระงานต่างๆ ก่อนเสนอบอร์ด รฟท.พิจารณา