‘แอร์เอเชีย’ ปิ๊งไอเดีย! เช็คอินด้วยการสแกนใบหน้ารายแรกในไทย ช่วยลดระยะเวลา-เล็งนำร่องสนามบิน ทย.

“แอร์เอเชีย” ดอดพบ “ถาวร” ถกร่วมอุตฯการบิน ปิ๊งไอเดียเช็คอินด้วยการสแกนใบหน้า เสนอขอใช้รายแรกในไทย คุยโวช่วยลดระยะเวลา สั่งลุยศึกษาแล้วเสร็จภายใน 31 ต.ค.นี้ เล็งนำร่องสนามบิน ทย.

นายถาวร เสนเนียม รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยภายหลังผู้บริหารสายการบินไทยแอร์เอเชียเข้าพบและร่วมหารือว่า สายการบินไทยแอร์เอเชียได้ขอนำเอานวัตกรรมการเช็คอินด้วยระบบจดจำใบหน้ามาใช้ในประเทศไทย ที่ในปัจจุบันมีใช้แล้วในประเทศมาเลเซียแล้ว สำหรับการเช็คอินด้วยระบบจดจำใบหน้านั้น เพื่อเป็นการพัฒนาการให้บริการ และดูแลลูกค้า ทั้งยังเป็นการลดระยะเวลาการเช็คอินด้วย ทั้งนี้ ตนจึงได้แต่งตั้งคณะทำงานศึกษารายละเอียดต่างๆ โดยมอบหมายให้นายสมเกียรติ มณีสถิตย์ รองอธิบดีกรมท่าอากาศยาน (ทย.) เป็นประธานฯ ในการพิจารณาถึงความเหมาะสม และรูปแบบในการดำเนินงาน รวมถึงเชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาประชุมร่วมกัน อาทิ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ, สำนักบริหารการทะเบียน กระทรวงมหาดไทย, สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) และสายการบิน เนื่องจากเรื่องดังกล่าวนั้น เกี่ยวข้องกับข้อมูลส่วนบุคคล และความมั่นคง ซึ่งจะต้องมีการพิจารณาข้อกฎหมายต่างๆ อย่างรอบคอบ อย่างไรก็ตาม ได้กำหนดกรอบระยะเวลาให้ศึกษาแล้วเสร็จภายในวันที่ 31 ต.ค.นี้ และสามารถขยายระเวลาได้ครั้งละ 15 วัน ทั้งนี้ ในเบื้องต้นตนต้องการให้พิจารณาไปทดลองใช้กับ 4 สนามบินภายใต้การกำกับดูแลของ ทย. ประกอบด้วย ท่าอากาศยานนครพนม, น่าน, บุรีรัมย์ และร้อยเอ็ด

นายถาวร เสนเนียม รมช.คมนาคม

ด้านนายสันติสุข คล่องใช้ยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายการบินไทยแอร์เอเชีย กล่าวว่า สายการบินแอร์เอเชียมีผู้โดยสารปีละ 20 ล้านคน ด้วยศักยภาพท่าอากาศยานที่มีอยู่ในปัจจุบัน ทำให้การเช็คอินของผู้โดยสารไม่สะดวกและมีความล่าช้า จากเดิมให้บริการเช็คอินที่เคาท์เตอร์ และตู้เช็คอินอัตโนมัติ ทำให้ลดเวลาในการเช็คอินได้เร็วขึ้น ทั้งนี้ เพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกให้ผู้โดยสาร จึงได้ศึกษาระบบเทคโนโลยีในการระบบจดจำใบหน้าในการเช็คอิน โดยยืนยันว่ามีความปลอดภัยการยืนยันตัวบุคคล และสามารถลดเวลาเช็คอินลงได้ จากเดิมการเช็คอินที่เคาท์เตอร์ใช้เวลา 90 วินาที จะเหลือไม่เกิน 45 วินาที ทั้งนี้ หากไทยนำระบบเช็คอินแบบจดจำใบหน้ามาใช้นั้น สายการบินไทยแอร์เอเชียจะถือเป็นสายการบินแรกที่นำมาให้บริการ

สำหรับกรอบระยะเวลาในการศึกษา 1 เดือนนั้น จะศึกษาความรอบคอบว่ากระบวนการนี้สามารถทำได้ โดยในเบื้องต้นได้หารือร่วมกับ ทย. รวมถึงกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมในการเก็บข้อมูลบุคคล ทั้งนี้ เมื่อผลการการศึกษาแล้วเสร็จตามแผน หรือภายในวันที่ 31 ต.ค.นี้ และได้รับการอนุมัติแล้ว จะนำมาทดลองที่ท่าอากาศยาน 3 แห่งของ ทย. ได้แก่ ท่าอากาศยานอุดรธานี, อุบลราชธานี และบุรีรัมย์ โดยจะใช้กับผู้โดยสารที่เดินทางภายในประเทศก่อนที่จะขยายไปยังผู้โดยสารระหว่างประเทศในอนาคต ในส่วนของวงเงินลงทุนระบบเช็คอินจดจำใบหน้านั้น ต้องรอผลการศึกษาก่อน เนื่องจากแต่ละท่าอากาศยานจะใช้วงเงินลงทุนไม่เท่ากัน ขึ้นอยู่กับขนาด และจำนวนผู้โดยสาร ทั้งนี้ ระบบเช็คอินดังกล่าว มีการใช้ในต่างประเทศและประสบความสำเร็จแล้ว เช่น ท่าอากาศยานชางงี ประเทศสิงคโปร์, ท่าอากาศยานลอนดอนฮีทโธรส์ อังกฤษ, ท่าอากาศยานบังกาลอร์ อินเดีย เป็นต้น

นายสันติสุข คล่องใช้ยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายการบินไทยแอร์เอเชีย

ที่มาภาพประกอบข่าว : http://www.airasia.smilesfly.com