คมนาคมดีเดย์! ปรับขึ้นอัตราค่าโดยสาร ต.ค.นี้

“อาคม” ลั่นเตรียมปรับขึ้นค่าโดยสารสาธารณะใหม่ ต.ค.นี้ รอผลการศึกษา ขบ. ก่อนส่งต่อขนส่งทางบกกลางฯ เคาะไฟเขียวต่อไป หลังราคาน้ำมันปรับขึ้นต่อเนื่อง ฟากผู้ประกอบการรถโดยสารประจำทางตบเท้าบุกคมนาคม โอดแบกรับต้นทุนไม่ไหว-ถึงภาวะทางตัน

นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยภายหลังหารือร่วมกับสมาคมกิจการรถโดยสารประจำทางไทยว่า กระทรวงคมนาคมได้รับข้อเสนอของสมาคมฯไว้พิจารณา ในเรื่องของการปรับขึ้นอัตราค่าโดยสาร เพื่อให้สอดคล้องกับต้นทุนที่แท้จริง ซึ่งในขณะนี้กรมการขนส่งทางบก (ขบ.) อยู่ระหว่างรอผลการศึกษาของสถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (TDRI) ในเรื่องโครงสร้างค่าโดยสารสาธารณะใหม่ ก่อนส่งผลการศึกษาดังกล่าวมายังกระทรวงคมนาคม และเสนอไปให้คณะกรรมการควบคุมการขนส่งทางบกกลางพิจารณาอนุมัติต่อไป อย่างไรก็ตาม การปรับขึ้นอัตราค่าโดยสารนั้น จะต้องสรุปให้แล้วเสร็จและมีผลบังคับใช้ภายใน ต.ค.นี้ ทั้งนี้ ตนได้กำชับผู้ประกอบการรถโดยสารสาธารณะว่า หากมีการปรับขึ้นอัตราค่าโดยสารแล้วนั้น จะต้องเน้นเรื่องของความปลอดภัย และคุณภาพในการให้บริการด้วย

ด้านนายพิเชษฐ์ เจียมบุรเศรษฐ์ นายกสมาคมกิจการรถโดยสารประจำทางไทย กล่าวว่า ปัจจุบันผู้ประกอบการซึ่งเป็นสมาชิกของสมาคมฯกว่า 200 ราย ให้บริการรถโดยสารสาธารณะเป็นรถหมวด 1,2,3, และ 4 รวมกว่า 10,000 คันทั่วประเทศ ต้องแบกรับภาระต้นทุนที่สูงจากราคาน้ำมันที่ปรับขึ้นต่อเนื่อง ส่งผลให้ถึงภาวะที่จะไม่สามารถประกอบการต่อไปได้ได้ จึงได้ยื่นข้อเสนอให้ รมว.คมนาคมพิจารณาปรับขึ้นราคาค่าโดยสารรถประจำทาง เนื่องจากอัตราค่าโดยสารในปัจจุบันยังไม่รวมค่าธรรมเนียมเฉลี่ยอยู่ที่ 0.49 บาทต่อ กม.เท่านั้นนั้น และใช้มาตั้งแต่ปี 56 ซึ่งในขณะนั้นราคาน้ำมันอยู่ที่ลิตรละ 23.74 บาท แต่ขณะนี้ราคาน้ำมันอยู่ที่ลิตรละ 29.89 บาท

“เราเดินทางมาพบท่าน รมว.คมนาคม เพื่อมาบอกความเดือดร้อนของผู้ประกอบการรถโดยสารสาธารณะ เราทนไม่ไหวแล้ว และถึงภาวะที่จะประกอบการต่อไปไม่ได้ เราไม่ได้ปรับอัตราค่าโดยสารมาตั้งแต่ปี 59 ยังคงใช้อัตราค่าโดยสารเฉลี่ยเท่าเดิม ประกอบกับค่าแรงงานก็ปรับขึ้นเป็นวันละกว่า 300 บาทแล้ว ทำให้ปัจจุบันเราเดินต่อไปไม่ได้แล้ว” นายพิเชษฐ์ กล่าว

นายพิเชษฐ์ กล่าวต่อว่า ที่ผ่านมาแม้ว่าได้แก้ปัญหาโดยการปรับลดเที่ยววิ่งลง 30% รวมถึงดูจำนวนผู้โดยสารให้คุ้มทุนจึงออกวิ่งรถ ไม่วิ่งตามระยะเวลาที่กำหนด แต่ยังเป็นเพียงแค่การประคองให้กิจการดำเนินไปได้เท่านั้น อย่างไรก็ตาม ทางสมาคมฯ จะรอจนถึงสิ้นเดือน ต.ค.นี้ ตามที่ รมว.คมนาคมรับปากว่าจะใช้อัตราค่าโดยสารใหม่ ตามผลการศึกษาการปรับโครงสร้างอัตราค่าโดยสารใหม่ของ ขบ. ซึ่งมั่นใจว่าจะเป็นอัตราที่สมาคมฯยอมรับได้ และทำให้ผู้ประกอบการอยู่รอดได้แน่นอน แต่ทั้งนี้หากอัตราค่าโดยสารใหม่ยังกระทบต้นทุน จนทำให้ผู้ประกอบการเดินรถต่อไปไม่ได้ ทางสมาคมฯจะหารือกันอีกครั้งว่าจะเคลื่อนไหวอย่างไรต่อไป