เปิดแล้ว! AOT DIGITAL AIRPORTS ขานรับนโยบายไทยแลนด์ 4.0 ‘ศักดิ์สยาม’ ลั่น ‘คมนาคมยุคใหม่ เน้นให้บริการแบบทันสมัย’

เปิดแล้ว! AOT DIGITAL AIRPORTS ขานรับไทยแลนด์ 4.0 นำร่อง “สุวรรณภูมิ” จ่อครบ 6 แห่ง-ขยาย 16 แห่งทั่วโลกภายในปี 63 ด้าน “ศักดิ์สยาม” ลั่นนโยบายคมนาคมยุคใหม่ ไม่เน้นก่อสร้าง มุ่งเป้าให้บริการประชาชนทันสมัย

นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยในงานเปิดตัวแอพพลิเคชั่น AOT DIGITAL AIRPORTS ว่า การดำเนินการดังกล่าว ถือเป็นการสอดรับกับนโยบายไทยแลนด์ 4.0 และนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาลในการพัฒนาระบบการให้บริการประชาชน ทั้งนี้ ตนขอชื่นชม ทอท. ที่มุ่งมั่นพัฒนาการให้บริการผู้โดยสาร โดยเฉพาะการเอาเทคโนโลยีที่ลงทุนไปก่อนหน้านี้ มาใช้ประโยชน์กับการลงทุนที่ใช้ไป ทำให้ไม่ต้องลงทุนจัดซื้อจัดจ้างใหม่ ซึ่งถือเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีในการดำเนินการ

ขณะเดียวกัน ตามที่ก่อนหน้านี้ ได้มอบนโยบายเร่งด่วนให้กับผู้บริหารระดับสูงของหน่วยงานในสังกัดกระทรวงคมนาคม ที่ต่อไปนี้ จะไม่ใช่แค่การก่อสร้างสาธารณูปโภคเท่านั้น แต่จะต้องเป็นกระทรวงที่มุ่งเน้นการบริการที่ทีนสมัย เช่ือมโยงกับระบบคมนาคม ทั้งทางบก ทางน้ำ ทางราง และทางอากาศ เพื่อประโยชน์ของพี่น้องประชาชน

 

***นำร่องท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ***

ด้านนายนิตินัย ศิริสมรรถการ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. กล่าวว่า AOT เปิดตัวแอพพลิเคชั่น AOT DIGITAL AIRPORTS สนามบินมีชีวิตเป็นนวัตกรรมที่เชื่อมโยงระบบ IT ทั้งหมดในสนามบินหรือท่าอากาศยานให้สื่อสาร เพื่ออำนวยความสะดวกและให้บริการแก่ผู้ใช้บริการท่าอากาศยาน โดยการดำเนินการในครั้งนี้ ทอท. ได้นำ 40 ระบบที่เคยลงทุนไว้แล้วมาดำเนินการ ทั้งการเชื่อมต่อระบบที่จอดรถ สายพาน เป็นต้น ซึ่งแอพฯ ดังกล่าว จะครอบคลุมท่าอากาศยานทั้ง 6 แห่งของ ทอท. โดยในช่วงแรกจะนำร่องที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ และในอนาคตจะเชื่อมโยงท่าอากาศยานพันธมิตรอีก 16 แห่งทั่วโลกภายในปี 2563 ด้วย

นอกจากนี้ ในอนาคตจะเชื่อมโยงระบบไปยังอุตสาหกรรมท่องเที่ยวนอกท่าอากาศยาน รวมทั้งการคมนาคมและแหล่งท่องเที่ยวภายในประเทศ ขณะเดียวกัน ภายในปีนี้ AOT จะปรับแอพพลิเคชั่นให้ครอบคลุมมากขึ้น โดยเพิ่มระบบแจ้งเตือนผู้โดยสาร เช่น แจ้งเดือนเวลา boarding gate ควบคู่ไปกับการใช้ภาพเสมือน (animation) คอยอธิบายตามจุดต่างๆในสนามบินเพียงเปิดหน้าจอมือถือ รวมถึงการเชื่อมข้อมูลระบบขนส่งสาธารณะ ทั้งรถไฟฟ้าแอร์พอร์ต เรล ลิงก์ และรถโดยสาร ขสมก.เป็นต้น ตลอดจนเชื่อมโยงข้อมูลจุดท่องเที่ยวสำคัญในไทยพร้อมอธิบายเรื่องราวของแต่ละสถานที่ (Story-teller) อีกด้วย

นายนิตินัย กล่าวต่ออีกว่า เตรียมพัฒนาแอพฯ ในส่วนของระบบะสมบัตรเครดิตของแต่ละธนาคารให้สามารถนำมาแลกแต้ม AOT Point ได้ เพื่อนำไปใช้ในสิทธิประโยชน์การแลกรับอาหารเครื่องดื่มกับร้านค้าในสนามบินที่เป็นเครือข่ายของ ทอท. ซึ่งมีอยู่ทั่วโลก นอกจากนี้ยังสามารถใช้แต้มดังกล่าวไปแลกรับส่วนลดงานบริการภายในสนามบินในเครือข่ายทั่วโลก เช่น การเช่ารถ แท็กซี่ จองโรงแรม ดิวตี้ฟรี รวมถึงซื้อบริการ เลาจน์ของแต่ละสนามบินได้อีกด้วย

“ในอนาคตจะสามารถแบ่งผู้โดยสารรุ่นใหม่กับผู้โดยสารรุ่นเก่าได้อย่างชัดเจน ผู้โดยสารรุ่นใหม่จะรู้ข้อมูลทุกอย่างบนมือถือ ส่วนผู้โดยสารรุ่นเก่าก็จะเดินไปดูเที่ยวบินแบบเดิมที่หน้าจอและใช้วิธีเช็คอินแบบเดิมที่เคาน์เตอร์” นายนิตินัย กล่าว

 

***คาดปีนี้นักท่องเที่ยวต่างชาติมาไทย 39 ล้านคน***

ขณะที่ นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวว่า อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของไทย มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยในช่วงครึ่งปีหลังของปี 2562 มีการประมาณการณ์จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่จะเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทยประมาณ 39-39.8 ล้านคน หรือเพิ่มขึ้น 2-4% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา ซึ่งท่าอากาศยานจึงถือเป็นประตูด่านแรกของนักท่องเที่ยว โดยการดำเนินการในครั้งนี้ กระทรวงฯ ได้สนับสนุนข้อมูลด้านการท่องเที่ยว และการให้บริการต่างๆ เพื่อให้นักท่องเที่ยวสามารถพูดคุยและสอบถามข้อมูลผ่านแอพพลิเคชั่นได้ และเป็นการส่งเสริมให้นักท่องเที่ยวที่เดินทางทางอากาศมายังประเทศไทยได้รับประโยชน์จากข้อมูลได้ง่ายและได้รับความสะดวกสบายด้วย