ด่วน! ‘ศักดิ์สยาม’ ย้ำ ‘รถไฟทุกขบวน’ ยังวิ่งเข้าสู่ ‘หัวลำโพง’ สั่ง รฟท.เช็คลิสต์ผลกระทบ ปชช. เดดไลน์ภายใน 30 วัน

“ศักดิ์สยาม” ยัน รถไฟทุกขวนยังวิ่งเข้าสู่ “สถานีหัวลำโพง” ระหว่างรอ “การรถไฟฯ” เช็คลิสต์ผลกระทบประชาชน ช่วงเปลี่ยนผ่านการพัฒนา “สถานีกลางบางซื่อ” เป็นสถานีหลักในการเชื่อมต่อระบบราง เดดไลน์ภายใน 30 วัน ชี้ทุกขั้นตอนต้องเป็นไปตามผลการศึกษา-กฎหมาย-มติ ครม. พร้อมเผยยอดผู้โดยสารสายสีแดงตั้งแต่เปิดทดลอง ส.ค. 64 มีผู้โดยสารกว่า 2.65 แสนคน เฉลี่ยวันละ 1.02 หมื่นคน

นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยภายหลังเป็นประธานประชุมคณะกรรมการเตรียมการเปิดให้บริการและการบริหารโครงการระบบรถไฟชานเมือง (สายสีแดง) และสถานีกลางบางซื่อ ครั้งที่ 8/2564 วันนี้ (20 ธ.ค. 2564) ว่า ที่ประชุมได้รับทราบผลการเปิดเวทีรับฟังความคิดเห็น “อนาคตสถานีหัวลำโพง ประวัติศาสตร์คู่การพัฒนา” จัดขึ้นเมื่อวันที่ 14 ธ.ค. 2564 โดยได้นำเสนอเหตุผลความจำเป็นในการพัฒนาสถานีกลางบางซื่อ และการเปลี่ยนผ่านการเป็นสถานีหลักในการเชื่อมต่อระบบรางของประเทศจากสถานีกรุงเทพ (หัวลำโพง) ไปยังสถานีกลางบางซื่อ และการพัฒนาสถานีหัวลำโพงในอนาคต ซึ่งการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) จะได้นำข้อเสนอจากภาคประชาชนจากการรับฟังความคิดเห็น เพื่อไปปรับปรุงการดำเนินการให้มีความเหมาะสมต่อไป

ทั้งนี้ ตนได้มีข้อสั่งการให้ รฟท. ดำเนินการจัดทำเช็คลิสต์ โดยมีผู้เชี่ยวชาญ และสถาบันการศึกษาที่เกี่ยวข้องร่วมให้คำแนะนำ เพื่อตรวจสอบผลกระทบกับประชาชน ทั้งด้านโครงสร้างพื้นฐาน การเชื่อมต่อของประชาชนและการขนส่งสินค้า การอำนวยความสะดวกด้านการจราจรและความปลอดภัยในการเดินรถ โดยให้ดำเนินการแล้วเสร็จภายใน 30 วัน

โดยการดำเนินการทุกขั้นตอนจะต้องเป็นไปตามผลการศึกษา ข้อกฎหมาย มติคณะรัฐมนตรี (ครม.) ที่เกี่ยวข้อง ก่อนหน่วยงาน ที่เกี่ยวข้องจะดำเนินการจัดทำแผนการดำเนินงานให้สอดคล้องต่อไป โดยในระหว่างการดำเนินการดังกล่าว ให้ รฟท. ยังคงรูปแบบการเดินรถไฟทุกขบวนเข้าสู่สถานีหัวลำโพง ทั้งขบวนรถเชิงพาณิชย์และเชิงสังคมตามเดิม รวมถึงประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนและผู้ใช้บริการทราบต่อไป

นายศักดิ์สยาม กล่าวอีกว่า ที่ประชุมได้ติดตามความคืบหน้าผลการดำเนินงานการให้บริการหลังการเปิดบริการรถไฟชานเมือง (สายสีแดง) ช่วงบางซื่อ-รังสิต และช่วงบางซื่อ-ตลิ่งชันอย่างเป็นทางการ โดยกระทรวงคมนาคมได้เริ่มเก็บค่าโดยสารรถไฟสายสีแดง ตั้งแต่วันที่ 29 พ.ย. 2564 ที่ผ่านมา โดยปัจจุบันรถไฟสายสีแดงมียอดผู้โดยสารโดยเฉลี่ยวันละ 10,267 คน ซึ่งมีอัตราเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งนับตั้งแต่เปิดให้บริการใน ส.ค. 2564 โดยเมื่อ พ.ย.ที่ผ่านมา มีผู้โดยสารรวม 265,038 คน ซึ้งเพิ่มขึ้น 31.96% จากเดือนก่อนหน้า

นอกจากนี้ รฟท. ได้ดำเนินการเชิงรุกเพื่อป้องกันไม่ให้บุคคลภายนอกเข้ามาลักลอบตัดสายอาณัติสัญญาณในระบบรถไฟฟ้า เช่น การเฝ้าระวังจากระบบเตือนที่ศูนย์ควบคุม จัดให้มีการลาดตระเวนของเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย เป็นต้น และในพื้นที่สถานีกลางบางซื่อได้เตรียมความพร้อมเพื่อรองรับการใช้บริการของประชาชนที่เพิ่มขั้นอย่างต่อเนื่องและรองรับการให้บริการรถไฟทางไกลของ รฟท. ในอนาคต

ขณะที่ การพัฒนาระบบขนส่งสาธารณะเพื่อการเชื่อมต่อการเดินทางสถานีรังสิต (Feeder) นั้น กรมการขนส่งทางบก (ขบ.) ได้ประชุมคณะทำงาน เพื่อจัดให้มีระบบขนส่งสาธารณะเพื่อเชื่อมต่อรถไฟสายสีแดงที่สถานีรังสิต เมื่อวันที่ 15 พ.ย. 2564 โดยที่ประชุมรับทราบวัตถุประสงค์โครงการและกำหนดแนวทางการดำเนินโครงการเกี่ยวกับการรวบรวมข้อมูล แนวทางการจัดประชุมรับฟังความคิดเห็น และมีการลงพื้นที่สำรวจด้านกายภาพของเส้นทาง เมื่อวันที่ 18 พ.ย. 2564

สำหรับค่าโดยสาร เมื่อเปิดให้บริการเชิงพาณิชย์ใน 3 ปีแรก (2565-2568) จะมีค่าแรกเข้า 12 บาท และอัตราค่าโดยสารตามระยะทาง 1.5 บาทต่อกิโลเมตร กำหนดอัตราค่าโดยสารสูงสุดในการเดินทางหนึ่งเที่ยว ไม่เกิน 42 บาท เมื่อถึงปีที่เอกชนดำเนินการให้เสนอใช้อัตราค่าโดยสารที่เหมาะสมต่อไป ทั้งนี้ รฟท. ได้ประชาสัมพันธ์ตารางอัตราค่าโดยสาร (Fare Table) ให้ประชาชนทราบล่วงหน้าแล้ว โดยสามารถชำระค่าโดยสารได้ทั้งเหรียญโดยสาร (Token) และบัตรโดยสารทั้งบัตรเติมเงินสำหรับการเดินทางแบบเที่ยวเดียว และบัตรโดยสารแบบรายเดือน

ด้านรายงานข่าวจากการรถไฟฯ ระบุว่า ในวันพรุ่งนี้ (21 ธ.ค. 2564) การรถไฟฯ จะมีการแถลงข่าวและรับฟังคำชี้แจงข้อเท็จจริงเกี่ยวกับประเด็นการเดินขบวนรถเข้า-ออกสถานีกรุงเทพ (หัวลำโพง) ในเวลา 09.00 น. โดยมีคณะผู้บริหารการรถไฟฯ ร่วมชี้แจง